วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทำไม่ผู้หญิงจะเป็นไม่ได้



        ทำไมผู้หญิงจะเป็นนายอำเภอ  ปลัดอำเภอไม่ได้


ในหนังสือนารีเรืองนาม  มีกลอนของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์  บทหนึ่งยกย่องหญิงไทยว่า

                    " เปลก็ไกวดาบก็แกว่ง              แข็งหรือไม

                  ไม่อวดยิ่งหญิงไทย                     มิใช่ชั่ว

                  ไหนไถถากตรากตรำ                  ไหนทำครัว

                  ใช่รู้จักแต่จะยั่ว                           ผัวเมื่อไร

                      แรงเหมือนมดอดเหมือนหมา    กล้าเหมือนหญิง

                  ยังจะจริงดังว่า                             หรือหาไม่ 

                  เมืองถลางปางจะจอด                  รอดเพราะใคร

                  เพราะหญิงไทย                           ไล่ฆ่าพม่าแพ้ "

ความเก่งกล้าสามารถ  อึดอดทน  และมีสติปัญญาของหญิงไทยและหญิงทั้งหลายในโลกนี้มีปรากฏในประวัติศาสตร์เสมอมา  ทัศนะที่ว่าหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ  พึงถนอมไว้ชมเชยนั้นเป็นทัศนะของชาย  เป็นทัศนะที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง  ยังมีค่านิยมอื่น ๆ เกี่ยวกับหญิง  ที่พาให้เข้าใจผิด
อย่างที่โบราณตั้งประเพณีไว้ว่า  ภรรยาเมื่อจะเข้านอนพึงกราบตีนสามีก่อน  จึงจะเจริญและพาให้ครอบครัวเป็นสุข  และอื่น ๆ อีก ดังที่ปรากฏในคำฉันท์กฤษณาสอนน้อง  ล้วนเป็ยคติที่ผู้ชายตั้งขึ้น  เพื่อกดผู้หญิงเอาไว้  ไม่ยอมให้เงยหน้าอ้าปาก  เพราะรู้ว่าขืนปล่อยให้หญิงรู้ซึ้งถึงศักยภาพของตน  ผู้ชายก็จะหมดอำนาจ  ซึ่งผู้ชายยอมไม่ได้และกลัวเรื่องนี้นัก  จึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะกดผู้หญิงเอาไว้  ผู้ชายจะได้มีอำนาจเบิกบานสำราญใจ  ทำอะไรก็ทำได้แต่ผู้เดียว

อย่างวันทองนั้นน่าสงสารแท้ ๆ ถูกติเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ว่าเป็นหญิงสองใจ  ที่จริงขุนช้างขุนแผนก็ชั่วอย่างวันทอง  แต่ไม่เห็นมีใครติเตียน  เพราะก่อนนี้โลกเป็นของผู้ชาย


ก็บัดนี้หญิงจะมีส่วนเป็นเจ้าโลกบ้างละ จะว่าอย่างไร   เมื่อเร็ว ๆ นี้มีปัญหาเรื่องที่มหาดไทยไม่ยอมให้หญิงมีสิทธิ์เป็นนายอำเภอ ปลัดอำเภอ อ้างเหตุว่านายอำเภอ ปลัดอำเภอ มีหน้าที่ต้องออกไปจับผู้ร้าย ทำให้ไม่ปลอดภัย  มีอันตรายมาก ผู้หญิงทำงานเที่ยวจับโจรเสี่ยงภัยนี่ก็คิดเอาเอง ลองให้ออกไปจับโจรดูบ้าง เชื่อว่าก็ทำได้ดี โจรนั้นเมื่อผู้หญิงไปจับก็มือตีนอ่อน เพราะมือนิ่มๆ มันต้องนิ่มนวลกว่าชายด้วยกัน เราควรเลิกอคติเสียที แต่ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างยิ่งเละ ดูความสามารถของคุณหญิงโม นครราชสีมา ท้าวเทพกษัตริย์ตรี ท้าวศรีสุนทร แห่งเมืองถลาง ก็นำพาประเทศชาตรอดมาถึงปัจจุบันนี้ 

ที่สหรัฐอเมริกาก็มีปัญหาคล้ายๆ กับประเทศเรา  คือว่าจะควรหรือไม่ที่จะให้ผู้หญิงเป็นทหารราบออกแนวหน้าร่วมรบกับทหารชาย  ที่มาของปัญหาก็คือครั้งสงครามอ่าวนั้นปรากฏว่าหญิงทำงานในสนามรบได้ดี  ควรยกย่อง  ถึงเวลาหรือยังที่จะให้หญิงรับราชการทหารได้ในทุกตำแหน่ง
ทุกเหล่าทัพ  เช่นเป็นทหารออกรบในแนวหน้า  เป็นนักบินขับเครื่องบินรบ  เป็นทหารรถถัง  แม้จนเป็นผู้บังคับการเรือรบ  ปัจจุบันนี้ปรากฏว่าในจำนวนทหารประจำการ  ๒  ล้านคน เป็นผู้หญิง
เสียร้อยละ ๑๑ และในสงครามอ่าว  ที่เพิ่งยุติไปมีทารหญิงช่วยรบถึง ๓๕,๐๐๐  คน  ทำหน้าที่นางพยาบาล  ขับรถบรรทุก  ขับเครื่องบินสัมภาระ  ขับเฮลิคอปเตอร์  ปรากฏว่าทำงานได้ดี  
ไม่มีปัญหาใด ๆ


พวกแม่ทัพได้ถกเถียงกันมากในปัญหาว่าถึงเวลาหรือยัง  ที่จะตรากฏหมายยอมให้้หญิงได้ทำงานทุกอย่างทุกตำแหน่งในกองทัพ  แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้  อย่างไรก็ดี  เมื่อคราวมีศึกคับขัน  ทหารชายมีไม่พอที่จะออกรบ   ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ผู้หญิง  อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลยบางรัฐบาลยังเคยฝึกเด็กวัยรุ่นออกรบก็มี


เวลานี้โลกเปลี่ยนไปได้ ภาวะของหญิงสมัยนี้ต่างกับสมัยก่อนลิบลับ ไม่ต้องดูอื่นไกลเมื่อราว ๆ
๓๐  ปีมานี้เอง  ผู้หญิงออกนอกบ้านคนเดียวเวลาค่ำคืนได้เมื่อไร  ถ้าจำเป็นต้องไป  ก็ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน  เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร  อย่าว่าไปนอกบ้านเลยไปต่างประเทศก็ไปได้สบาย  ดังนั้นการที่นึกว่าผู้หญิงจะเป็นนายอำเภดปลัดอำเภอไม่ได้เป็นความคิดที่ล้าสมัยเต็มที่

เวลานี้สิ่งที่ผู้หญิงทำไม่ค่อยได้หรือทำได้ไม่ค่อยดีก็คือหน้าที่แม่บ้าน   หน้าที่ของแม่บ้านค่อยกลายเป็บหน้าที่ของพ่อบ้าน  แต่เปลี่ยนทีละน้อย  ไม่สังเกตก็ไม่เห็น  ก็อย่างที่บางครอบครัวพ่อบ้านจะทำหน้าที่ดูแลบ้าน  ดูแลลูกแทนแม่  ซึ่งกว่าจะกลับถึงบ้านบางทีก็ห้าทุ่มสองยาม  บางรายพ่อบ้านไม่ต้องออกหาเงิน  แม่บ้านเป็นคนหา  เรื่องอย่างนี้มันชักจะเกิดมากขึ้นทุกวัน


เมื่อหญิงเข้าทำหน้าที่ผู้ชายเสียดังนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น  มันก็จะเป็นผลร้ายโดยไม่ต้องสงสัย  นักประวัติศาสตร์อาจชี้ให้เห็นว่า  ความเจริญของโลกที่เดินก้าวหน้ามากว่าสามสี่พันปีนั้นอยู่ที่หญิงรู้จักหน้าที่ของตน  คือเป็นแม่บ้าน  เลี้ยงดูอบรมลูก  เป็นเพื่อนใจหรือเพื่อนบุญของสามี
เมื่อใดทิ่งหน้าที่ตามธรรมชาติของเธอ  เมื่อนั้นครอบครัวก็จะเสื่อม   มีคำกล่าวของปราชญ์
ตะวันตกคนหนึ่งว่า ในความสำเร็จของชา่ยนั้นมักจะมีหญิงอยู่เบื่องหลังคนหนึ่งเสมอ จึงเห็นว่าเมื่อหญิงละทิ้งหน้าที่โดยธรรมชาติของฃเธอเสียแล้ว  โลกหรือมนุษย์ไม่น่าจะดีขึ้น  และจะเลวลงอย่างไร  จะเกิดวิบัติประการใดกว่าจะรู้ก็อีกหลายร้อยปี  เราสมัยนี้ไม่มีผู้ใดมีชีวิตอยู่ได้เห็น (แต่ตอนนี้ก็พอจะได้เห็นบางแล้ว) แต่จะคิดให้มันยุ่งสมองไปใย  โลกมันก็เป็นไปตามวิถีของมัน
คิดเสียอย่างนี้ชีวิตมันคงจะโปร่งใสกว่ามิใช่หรือ 


                                            _________________________




                                                                                                                                                            Chanpa  

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น