วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อเนียม"อีหนูมึงอยากเห็นพ่อมึงไหม"



สุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แบ่งเป็นอำเภอแค่ ๗ อำเภอการไปมาไม่สดวกเหมือนในปัจจุบัน สภาพของสุพรรณบุรีเป็น เมื่องปิด หมายความว่าเมื่อใครไปจังหวัดสุพรรณบุรีถ้าเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ( ซึงเส้นทางก็ไม่สดวกเหมื่อนในปัจจุบัน ) สายใต้ผ่านนครปฐมมาตามเส้นทางสายมาลัยแมน ระยะทาง ๑๕๕ กิโลเมตร ไปได้เส้นทางเดียวทางอื่นไปไม่ได้ นอกจากทางเรือแต่ใช้เวลานานมาก เมื่อไปถึงสุพรรณบุรีแล้วท่านจะเดินทางต่อไปจังหวัดอ่างทองหรือสิงห์บุรีไม่ได้เด็ดขาดเพราะไม่มีถนนนอกจากถอยหลังไปตั้งตนใหม่ที่กรุงเทพฯแล้วค่อยหาทางไปใหม่  ไม่มีเส้นทางทลุ จากสุพรรณบุรีไปจังหวัดอื่นเหมื่อนสมัยนี้นอกจากทางเรือเท่านั้เอง

อำเภอบางปล้าม้า (มีปล้าม้ามาก) เป็นอำเภอที่ใกล้อำเภอเมืองมากที่สุดมีเส้นทางถนน (ลูกรัง)ไม่ดีนักระยะทาง ๑๒ กิโลเมตร คิดว่าไปทางเรือสดวกกว่า บรรยากาศสองฝังแม่น้ำท่าจีนร่มเย็น ผ่านวัด หลายวัดเพราะสุพรรณบุรีมีวัดเก่าแก่มากมายสมัยนั้นโบสถ์วัดมะนาวสวยงามมากที่สุดเท่าที่ผมเห็นมาในสมัยนั้น

วัดน้อยเป็นวัดเก่าแก่หลวงพ่อเนียมท่านเป็นพระปฏิบัติท่านมักมีอะไร ๆ   ให้ชาวบ้านเห็นเสมอ ๆ  แต่ท่านก็ไม่เคยพูดคุยให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร นอกจากชาวบ้านไปเล่าลือกันต่าง ๆ นา ๆ  


รื่องราวต่อไปนี้ผู้เล่าคือบิดาของผู้เขียนเองท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า  วัดน้อยเป็นวัดเก่าแก่ขาดการบูรณะซ่อมแซมวัดอยู่ติดแม่น้ำท่าจีน ภายในวัดค่อนข้างเป็นป่ารกชัฏวังเวงกลางคืนไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน แต่ก็มีชาวบ้านบริเวณสองฝังแม่น้ำไปทำบุญในวันพระเสมอมิได้ขาด
กุฏีของหลวงพ่อเนียม  พ่อผมเล่าว่า  เวลาลูกศิษย์จะเข้าไปทำความสะอาด หลวงพ่อจะตะโกนออกมาว่า "เฮ้ย!!!..ระวังงูเห่าที่มันอยู่ใต้โต๊ะด้วย (โต๊ะต่ำ ๆ แต่มีจีวรเก่า ๆ ปิดไว้) มันมาอาศัยอยู่กับท่านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครตอบได้มีด้วยกันอยู่สองตัวและผู้ที่เคยเห็นเล่าว่าตัวมันใหญ่มาก และท่านก็ไม่เคยบอกเล่าให้ใครฟัง แต่ถ้าไม่จำเป็นพวกเราก็ไม่อยากเข้าไปอยู่แล้ว

พ่อของผมเล่าว่า เมื่อตอนที่ย่าของผมยังไม่ได้แต่งงานกับปู่ ยายังเป็นสาว  ย่ามีอาชีพเกษตรคือ ทำไร่ทำนา ต่อมาพ่อของย่าเกิดเสียชีวิตลงย่าซึ่งเป็นลูกสาวก็ทำนามาตลอดย่ามีน้องชายอีกคนหนึ่งซึ่งอ่อนกว่าย่าหลายปี การทำนาสมัยก่อนเรียกว่าการทำนาปี หมายความว่าปีหนึ่ทำครั้งเดียว ทำกันในฤดูฝน  ข้าวนาปีไม่กลัวน้ำท่วม    ลำต้นของข้าวยาวมาก แม้น้ำ
จะมากก็ไม่กลัวน้ำจะท่วม ร่วงของข้าวก็ใหญ่ปริมาณเก็บเกี่ยวก็เยอะ


วันหนึ่งย่าพายเรือพาน้องชายคนเ็ล็กไปนาด้วย บางช่วงก็ต้องใช้ ถ่อ (ถ่อ คือลำไม้ไผ่ยาว ๆ)
เพราะผ่านก่อข้าวใช้พายไม่ได้ พ่อของผมเล่าต่อไปอีกว่า ขณะที่ย่าของผมตั้งหน้าตั้งตาถ่อเรือ บังเอิญหัวเรือไปชนกับตอไม้อย่างแรง เป็นเหตุให้น้องชายของย่าตกจากหัวเรือจมน้ำตาย  ย่าเสียใจมาก  เสีนพ่อไปยังไม่ทันเท่าไรก็ต้องมาเสียน้องไปอีก ย่ารู้สึกเสียใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ


มื่อพ่อของข้าพเจ้าเล่ามาถึงตอนนี้ท่านก็หยุดเล่า  แล้วหันมามองหน้าของผม แล้วถามผมว่า "อยากฟังต่อไหม"    ผมนึกในใจ ว่าพ่อถามผมอย่านี้ได้อย่างไร เราเองอยากฟังให้จบ
เรื่องเก่า ๆ แบบนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อน เล่าแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เรียกน้ำย่อยแล้วหยุดเล่าไปเฉย ๆ
แบบนี้ผมยอมไม่ได้   "อยากซิพ่อ" ผมตอบพ่อไปอย่างเร็ว  พ่อจุดบุหรี่ เกร็ดทอง (ตอนนั้นผมจำราคาได้ซองละ ๓.๕๐ บาท) ขึ้นสูบแล้วอัดควันบุหรี่เข้าปอดอย่างแรง (ปัจจุบันไม่สูบบุหรี่เพราะไม่มีปอดรับควันบุหรี่)  ตอนต่อไปนี้สำคัญ  ลูกตั้งใจฟังให้ดี  ยาเสียใจอยู่เป็นปี  และวันหนึ่งย่าเล่าให้พ่อฟังว่า  วันนั้นย่าจำได้ว่าเป็นวันพระ  ยาตืนแต่เช้ามืดเตรียมของไปทำบุญที่
วัด  วัดที่กล่าวถึงก็คือวัดน้อยหลวงพ่อเนียม  วันนั้นมีคนไปทำบุญมากพอสมควร เมื่องานบุญเสร็จคนที่อยู่ไกลหน่อยก็พากันกลับ  ส่วนใหญ่พายเรือมา  ย่าผมยังไม่กลับ อยู่ช่วยล้างถ้วยล้างชามก่อนกลับบ้านซึ่งย่าของผมก็ทำแบบนี้สม่ำเสมอ แต่วันนี้ ย่ามีงานล้างถ้วยชามมากกว่าทุกครั้ง  ขณะที่ย่ากำลังง่วนกับงานอยู่นั้น ไม่ได้ทันสังเกตว่า หลวงพ่อเนียมได้มายืนอยู่ข้างหลัง  ท่านพูดเสียงดังฟังชัดว่า   "อีหนูมึงอยากเห็นพ่อมึงไหม"  ย่าผมสะดุ้งเล็กน้อย
แล้วหันไปมองหลวงพ่อ แล้วตอบว่า "อยากเห็นซิเจ้าคะ"  "โน่นไงพ่อมึง" ท่านพูดพร้อมทั้งชี้มือไปทางมุมกฏี ติดกับป่าช้า สิ่งที่ย่ามองตามมือชี้ของหลวงพ่อเนียม ทำให้ย่าถึงกับตกตลึงอ้าปากค้าง ย่าเห็นพ่อของย่าอุ้มน้องชายคนเล็กที่ตกน้ำตาย   เดินหายไปข้างป่าช้าก่อนที่จะหันมามองหน้าย่าเป็นครั้งสุดท้าย กว่าย่าจะได้สติกลับมาก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อเนียมท่านเดินหายไปไหนแล้ว


รื่องนี้พ่อเล่าให้ผมฟัง ตอนนี้พ่อผมยังมีชีวิตอยู่ อายุท่านตอนนี้ก็ ๙๓ ปี ความจำท่านยังดี เพียงแต่แข้งขาท่านไม่ค่อยดีเท่านันเอง ท่านบอกว่าจะอยู่สัก ๑๒๐ ปี ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมก็ไม่อายุ ๙๐ ปีหรือ  อนิจจาเวลาทำไมมันเร็วนักหน้า นี่หรือความแก่ ตถตา....!!!!!!!!


                                          -----------------------------------------



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น