เรื่องขี้ลืมนั้นมันมีด้วยกันทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชายลืมก็ทำให้เกิดปัญหา อาจจะใหญ่หรือเล็ก หรือเป็นเรื่องขำขันก็แล้วแต่กรณี เด็กลืมแปรงฟัน ลืมทำ
การบ้าน พอโตขึ้นก็ลืมกลับบ้าน บางคนไม่ลืมยังหลงเสียอีก หลงไปบ้านเล็กบ้านน้อย
แทนที่จะกลับบ้านดันไปโผล่ที่อาบอบนวดอย่างนี้ก็มีบ่อย ๆ ลืมวันเกิดแฟน ลืมวันครบรอบ
แต่งงาน พอนึกได้จะไปแก้ตัวดันลืมเสียอีกว่าเรื่องอะไร
ลืมแสนจะอายขายหน้าคือลืมรูดซิบ แล้วสาว ๆ มาสะกิดบอก ลืมหน้าด้านก็มีบ่อย ๆ
ทักทายสาวผิดคิดว่ารู้จักเธอมาก่อน ลืมที่น่าเห็นใจของคนจนคือ "ลืมหนี้" ลืมของคนรวย
"ลืมรับเงินเดือน" ลืมที่น่าสงสารคงจะไม่มีอะไรเกิน "ลืมตัว" พออายุมากเข้าก็ลืมลูกลืม
หลาน ลืมผัวลืมเมีย ผลที่สุดก็ลืมเป็นครั้งสุดท้าย "ลืมตื่น"
ทฤษฎีในการแพทย์เขาก็อธิบายเหมื่อนกันว่าทำไมคนเราจึงถึงลืม ? แต่ผมเองก็ลืม
ไปเสียแล้วว่าเขาอธิบายว่าอย่างไร พอนึกได้จะไปค้นอ่านดูก็ลืมว่าเอาเก็บไว้ที่ตรงไหน ? ก็
เลยไม่รู้ว่าอะไรทำให้ลืม เมื่อรู้สาเหตุมันก็แก้ยากครับ เอาเถอะ......ผมสัญญาว่าถ้าไม่ลืมจะ
เขียนมาบอกไว้ตอนท้ายก่อนจะจบเรื่องผู้หญิงขี้ลืมนะครับ
คราวนี้ผมจะเขียนถึงเรื่องลืมที่คนทั่ว ๆ ไปไม่ใคร่ได้ฟังยิ่งแฟนคุณหรือภรรยาคุณ
และก็ยิ่งไม่อยากให้คุณรู้ ไม่ใช่ว่าผมจะเขียนค่อนแคะผู้หญิง แต่เห็นว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
และคนอื่น ๆ ก็ควรจะรู้บ้าง
ผมจะเขียนเรื่อง "ผู้หญิงขี้ลืม" เริ่มด้วยลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน คือลืมทานยาคุมกำเนิด ยาเม็ดเล็กนิดเดียวเท่านั้นเอง แต่ถ้าลืมมันก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ ถ้านานไปหลาย
เดือนเข้า ปัญหาก็อาจจะ "หนักหลายกิโลกรัม"
ถ้าลืม.....ก็ไม่รู้
ต้องระวังให้ดี
แต่ถ้ารู้ว่าลืม จะแก้ไขอย่างไร ?
มีข้อแนะนำง่าย ๆ ดังนี้
๑. ถ้าลืมแต่ยังอยู่ในวันเดียวกันก็ให้รีบทานเสียเลย
๒. ถ้าลืมทานยาเมื่อวาน วันนี้ให้ทาน ๒ เม็ด
๓. ถ้าลืมทานยาไป ๒ วันแล้ว วันนี้ทาน ๒ เม็ด, พรุ่งนี้ทาน ๒ เม็ด แล้ววันละเม็ด
ไปจนหมด
๔. ถ้าลืม ๓ วันหรือมากกว่า ๓ วัน ขอแนะนำง่าย ๆ ว่าให้ทิ้งยาแผงนั้น แล้วเริ่ม
ทานยาแผงใหม่
วันหนึ่งมีหญิงสาวท่าทางดี เหนียมอาย มาหาที่คลีนิก
"คุณหมอคะ หนูใส่ผ้าอนามัยซับเลือดเข้าไปในช่องคลอด ( Tampon ) เมื่อวานเย็น ตื่นเช้า
ขึ้นมาจะเอาออกก็หายไปเสียแล้ว" เธอบอกด้วยความมันใจและตกใจ "คุณหมอช่วยหาให้หน่อยเถอะค่ะมันจะหายเข้าไปในท้องของหนูได้ไหม ?" เธอถามพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดปากด้วยความละอายและมีอาการกังวล
เมื่อผมตรวจอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ต้องบอกว่า "ไม่มีหรอกครับคุณคงเอาออกไปแล้ว
หรือไม่ก็ไม่ได้ใส่เข้าไป และก็จะหายเข้าไปในท้องไม่ได้ด้วย" ผมบอกเธอด้วยความมั่นใจและปลอบใจเธอ ลืมชนิดนี้ขอให้ชื่อว่า "ลืมขี้ตู่" บางคนก็ลืมจริง ๆ แหละครับ บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผมตรวจภายในคนไข้ ( Pelvic Exam ) พบว่ามีผ้าอานามัยซับเลือด ( Tampon )
อยู่ในช่องคลอด บางรายลืมไว้เป็นเดือน เมือเอาออกมาจากช่องคลอดกลิ่น......อย่าบอกใคร
เลยครับ ต้องกลั้นหายใจกันหน้าเขียวหน้าเหลืองลืมแบบนี้เรียกว่า "ลืมซ่อนกลิ่น"
ท่านหญิงบางคนก็ลืม (ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ) โยนผ้าอานามัยที่ใช้แล้วลงใน
โถส้วม ขี้ลืมแบบนี้ทำให้เดือดร้อนกันทั้งบ้านหรือทั้งสำนักงานมามากนักแล้ว ส้วมตันน้ำล้น
เหม็นหึ่ง จะขอเรียกลืมชนิดนี้ว่า "ลืมมักง่าย" บางคนก็ลืม ที่จริงไม่ลืมหรอก คงจะใจลอยมากกว่า มัวคิดถึงแฟน คิดถึงพระเอกรูปหล่อ......แถมครวญเพลงไปด้วยก็เลยเผลอใส่ผ้า
อานามัยผิดข้างหรือกลับข้าง นอกจากจะเสี่ยงต่อการเปิดไฟแดงแล้วกาวอันเหนียวหนับทางด้านหลังของผ้าอานามัย ก็จะติดหนึบกับอะไรต่อมิอะไรในบริเวณนั้น...ไมอยากวาดภาพ.....
มันหวาดเสียวนะครับ ลืมแบบนี้คงจะเรียกว่า "ลืมยุ่งเหยิง"
หญิงสาวคนหนึ่งอายุอานามก็คงจะยี่สิบกว่า ๆ เธอมาโรงพยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน
ด้วยอาการปวดท้องและตกขาว เมื่อตรวจภายในพบว่า เธอตกขาวมาก มีหนองกลิ่นคลุ้ง
ไปหมด ปรากฏว่ามีอะไรอยู่ในช่องคลอดของเธอ ผมจึงต้องใช้เครื่องมือดึงออกมา คงจะไม่ลืมคนไข้รายนี้ไปจนตาย เพราะสิ่งที่ผมดึงออกมานั้นเป็นถุงพลาสติก รัดด้วยยางวงหลายตลบ ห่อใหญ่พอควร แม้ว่าจะเปื้อนเปรอะไปด้วยหนอง แต่พอมองเห็นว่าภายในนั้นเป็น
สีเงินสีทอง ผมชูห่อขึ้นให้เธอดู ขณะที่เธอยังนอนอยู่
"ต๊าย.......ตายแล้ว ดิฉันลืมถึงขนาดนี้เชียวหรือ ? ดิฉันจะอธิบายให้ฟัง" เธอพูด
พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง แล้วก็แก้ห่อออกมาเป็น แหวน, สายสร้อยเงิน, สายสร้อยทอง, มีค่ามากที่เดียว "ของเหล่านี้"......เธอพูดเสียงสันเกือบจะเป็นร้องไห้ "ของเหล่านี้แม่ให้มาเป็นของเก่า ดิฉันเอาใส่เข้าไปซ่อน ไอ้ผัวขี้เหล้าติดยาของฉันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว กลัวมันจะลักไปขาย แล้วดิฉันก็ลืม ลืมเสียสนิทที่เดียว แหม ! ดิฉันอายจริง ๆ เธอกระซิบบอกผมก่อนที่จะลาจากไป พร้อมกับห่อเงินห่อทองของเธอ ลืมแบบนี้ เรียกว่า "ลืมสมบัติ"
หญิงสูงอายุมาตรวจภายใน และตรวจมะเร็งปากมดลูก เพราัะ ไม่ได้ตรวจมานานนมเน ลูกหลานบังคับให้มา เมื่อตรวจก็พบว่า ที่ปากมดลูกมีสายพลาสติกห้อยอยู่ ดู
เหมือนสายห่วงคุมกำเนิด เนื่องจากคนไข้มีอายุมากและหมดประจำเดือนมาหลายปีแล้วคงจะไม่ต้องใช้ห่วงคุมกำเนิดอีกต่อไป
"ป้ามีห่วงคุมกำเนิดอยู่รู้หรือเปล่า ? " "ว้าย.....ตาเถรช่วย....จริง ๆ หรือคุณหมอ ?" คุณป้าร้องอย่างตกใจ
"หมออนามัย (Health Department) เขาใส่ให้ตั้งแต่คลอดลูกสาวคนเล็ก เดี๋ยว
นี้อีหนูมันเรียน ม. ๔ (High School) อายุก็ ๑๖ ปีแล้วค่ะ สามีก็เสียชีวิตมาตั้ง ๑๐ ปี
คุมกำเินิดเปล่า ๆ มาเป็นเวลา ๑๐ ปีไม่น่าลืมเลย"แล้วป้าก็บนต่อ "แหมเจ็บใจ ! "
"เจ็บใจอะไรป้า" ผมถามให้หายข้องใจ
"เจ็บใจที่ลืมน่ะหมอ"
"ผมดึงออกนะป้า" ผมชูห่วงที่ดึงออกมาด้วยเครื่องมือให้ป้าดูก็ห่วงคุมกำเนิด
จริง ๆ แหละครับ
"ไอ้ห่วงนี่มันอยู่ในอิฉันมาตั้ง ๑๖ ปี เชียวหรือนี่ หายห่วงไปที" คุณป้าบ่นถอนใจขณะลงจากเตียงคนไข้
ลืมอย่างนี้คงจะเรียกว่า "ลืมห่วง" ลืมที่ยาวนานเป็นประวัติการณื
บทสรุป
การใช้ห่วงคุมกำเนิด
หลักการของการใช้ห่วงคุมกำเนิดก็คือ การใส่วัสดุบางอย่างเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อขัดขวางการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วไม้ให้เจริญต่อเป็นทารกได้ ห่วงคุมกำเนิดมีลักษณะหลายแบบ ตั้งแต่เป็นรูปตัว T (Couper -T) รูปเส้นขดไปมา เป็นต้น |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น