เรื่องทุกเรื่องเป็นอดีตไปหมดแล้ว เกิดจากความจำ เกิดจากอารมณ์ขำ อ่านแล้วไม่เครียด อ่านแล้วขำลึก ๆ นึกขึ้นมาที่ไรก็เบิกบานทุกครั้ง
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555
เสือคลี่
ในวงการยุทธจักรนักเลงเป็นเจ้าพ่อบนเขาศูนย์ ถ้าเอ่ย ถึงเสือคลี่หรือเจ้าพ่อคลีหรือแล้วละก้อ ทุกคนต้องร้อง "อ๋อ" ต่างรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะเสือคลี่จัดเป็นเจ้าพ่อชั้นแนวหน้าคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ + พรแสวง ยิงปืนแม่นราวจับว่าง หมายความว่าจะยิงตรงไหนก็ได้ถูกทุกตำแหน่ง นัดเดียวไม่มีการซ้ำนัด ใคร ๆ ที่ว่าแน่ ๆ พี่แกเป่าดับดิ้นสิ้นเป็นผีมาเสียมากต่อมาก
เสือคลี่นี้เป็นคนท้องถิ่นอำเภอฉวาง รูปร่างสันทัด อายุราวสี่สิบกว่า สมัยหนุ่ม ๆ แกเคยเป็นตำรวจ แต่อยู่ได้ไม่นานแค่สองสามปีก็เกิดไปมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชาถึงขั้นท้าตีท้าต่อย ถ้าเป็นสมัยนี้ยิงกันตายบนโรงพักไปแล้ว (แบบเกิดที่สุโขทัยเมื่อไม่นานมานี้ "ผมจำได้ว่าเกิดที่สุโขทัยสามครั้งตำรวจยิงตำรวจ" ) ในที่สุดเสือคลี่ต้องลาออกจากราชการ แล้วมาทำสวนยางเจริญรอยตามลุงกับซึ่งเป็๋นพ่อระหว่างที่ทำสวนยางอยู่นี้ เสือคลี่ก็ประพฤติตนเป็นมือปืนรับจ้างยิงหัวคนไปด้วย จนชื่อเสียงค่อย ๆ เลื่องลือเป็นที่เกรงขา้มของคนทั่วไปโดยเฉพาะในตลาดฉวางเสือคลี่ยิงมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบศพ ทุกศพล้วนนัดเดียวเข้าหัวตายคาที่ และไม่เคยมีประวัติว่าเสือคลี่ต้องยิงศพไหนถึงสองนัด
เสือคลี่บุกยิงเถ้าแกชื่อชะวักตายคาที่หน้าโรงพักตอนกลางวันแสก ๆ แล้ววิ่งหลบหนีไปทางหลังโรงเรียนท่ามกลางสายตาของผู้คนที่สัญจรไปมามากมาย คดีนี้ผู้กองสมัยนั้นโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ถึงประกาศก้องต้องตามล่าเสือคลี่มาเข้าคุกให้ได้ ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์และหยามหน้ากันเกินไป และผู้กองคนนั้นก็สามารถจับเสือคลี่มาดำเนินคดีตามกฏหมายจนได้ ท่านทำสำนวนส่งฟ้องศาลเอง ในสำนวนฟ้องขอให้ศาลลงโทษเสือคลี่ถึงขั้นประหารชีวิต ครั้งนั้นเรื่องนี้เป็นที่โจษจันเซ็งแซ่ของชาวบ้านทั่วทั้งตลาด ทุกคนต่างออกความเห็นเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าเสือคลีจะถูกศาลตัดสินประหารชีวิตหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อย ๆ แกต้องถูกจำคุกจนแก่ตายเป็นแน่ เพราะนอกจากคดีนี้แล้ว เสือคลี่ยังมีคดีฆ่าตายอีกห้าคดีที่ยังหลบหนีหมายจับอยู่ แต่แล้วทุกอย่างกลับพลิกความคาดหมาย เสือคลี่ติดคุกไม่กี่เดือน แกสู้คดีจนหลุดหมด เพราะศาลยกฟ้องเนื่องจากขาดพยานหลักฐาน นี่แหละสภาพสังคมและกฏหมายบ้านเมืองของไทย ที่ทุกคนต่างคิดแต่จะเอาตัวรอดโดยไม่
คำนึงถึงส่วนรวม มือปืนจึงหากินได้สบายไม่มีวันหมดสิ้น
เสือคลี่รับจ้างยิงหัวคนมาแล้วหลายสิบศพ ก็ไม่เคยเห็นต้องติดคุกติดตรางสักที มีแต่จะเสริมสร้างบารมีแกให้แกร่งกล้าเป็นที่เกรงขามของคนมากขึ้นเท่านั้น เสือคลี่ยิงทุกคนไม่เลือกหน้าไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร ขอเพะียงให้เอาเงินมาจ้างเถอาะ
มีอยู่คดีหนึ่งที่เล่าลือกันทั่วทั้งตลาดฉวาง เป็นเรื่องระหว่างลุงนำกับเสือคลี่ ลุงนำนั้นใคร ๆ
ก็รู้ว่าแกเป็นคนหัวหมอหัวความ เพราะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกับคนโน้นคนนี้ไม่เว้นแต่ละวัน
บ้านลุงนำกับบ้านเสือคลี่อยู่ใกล้ ๆ กัน ทั้งสองต่างรักใคร่นับถือเหมือนญาติสนิทและไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองประการใด คืนนั้นไฟฟ้าดับที่ร้านกาแฟลุงนำกับเสือคลี่นั่งจิบกาแฟกันอยู่ในร้าน คุยกันสักพักทั้งสองจึงชวนกันกลับบ้านซึ่งอยู่หลังวัดปากทอน ก่อนจะกลับลุงนำยังแวะซื้อเทียนเล่มหนึ่งแล้วหันมาบอกเสือคลี่
"มืด ๆ ยังงี้เดินดี ๆ นะไอ้หลานคลี่" ว่าแล้วลุงนำก็จุดเทียนส่องไฟนำทางโดยมีเสือคลี่เดินตามหลัง และแล้วคืนนั้นลุงนำก็ถูกเสือคลี่ยิงตาย (ทำให้ผมนึกถึงเรือง"มือปืน"ที่ผมเคยดู)
ตรงสะพานปากทางเข้าวัด รุ่งเช้ามีคนมามุงดูศพลุงนำกันเต็ม ส่วนเสือคลี่ไม่รู้แกล่องหนหายตัวไปไหนแล้ว งานนี้ไม่มีใครโทษเสือคลี่ เพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่านี่คืออาชีพของแก มีแต่คนเขาตำหนิผู้ตายว่าโง่ "เดินนำหน้าใครไม่เดิน ไปเดินนำหน้าเสือคลี่ ! "
เสือคลี่เป็นนักเลงปืนที่ฉลาด แกจะไม่เสี่ยงสู้คนต่อหน้ามีแต่จะแอบลักยิงหัวเพื่อนลับหลังอย่างเดียว อีกทั้งไหวพริบปฏิภาณการระวังตัวก็ดีเยียม แกไม่ยอมดูหนังดูดนตรีั ไม่กินเหล้านอกบ้าน ไปไหนมาไหนไม่หยุดแวะคุยกับใครเกินห้านาทีเพราะกลัวเป็นเป้าสายตาถ้าเหตุการณ์ไหนเสียงอันตรายต่อชีวิตมากเกินไป (เห็นไหมครับแม้แต่มือปืนก็มีระเบียบวินัยเคร่งครัดเพราะถ้าพลาดก็หมายถึงชีวิตตัวเองเหมือนกัน) แก่จะไม่ยุ่งด้วย อย่างเช่น เมื่อครั้ง
หลุมโกช็อกกับหลุมลุงกีด กำลังถูกแร่มาก ซึ่งจัดเป็นยุคมิคสัญญีมากที่สุดบนเขาศูนย์เพราะมีนักเลงหลายก๊กหลายเหล่าจากทั่วสารทิศ ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบรวมทั้งพวก ผ.ก.ค. ต่างพาสมัครพรรคพวกขึ้นมาอุกปล้นชิงแร่สองหลุมนี้ฆ่ากันตายทุกวัน บางวันถล่มกันด้วยอาวุธร้ายนานาชนิดจนตายเกลื่อนหลุมมากกว่ายี่สิบศพก็ยังเคยมี ครั้งนั้นเป็นยุคของนักเลงจากอำเภอชะอวดที่รวมตัวกันเหนียวแน่นขึ้นมาครองเขาศูนย์
ที่ดัง ๆ ก็มีอยู่ด้วยกันสองคนคือ ไอ้จบหน้าบากกับไอ้ลูกหมี ขณะนั้นเสือคลี่ก็นับว่าดังสุดกู่แล้วก็ยังไมกล้าขึ้นเขาศูนย์ มิใช่แกจะด้อยฝีมือ นั่นแสดงถึงเสือคลี่เป็นคนไม่ประมาทนั่นเอง
ไม่งั้นแกอาจถูกยิงตายตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่แน่ ส่วนนักเลงท้องถิ่นเห็นมีแต่เสือเชื่องซึ่งเป็นโจร
ลักวัวลักควายชื่อดัง ที่ขึ้นไปอุกปล้นชิงแร่กับเขาด้วย แต่แก่สู้อยู่ได้สักพักหนึ่ง ก็เดินลงจากเขาศูนย์เสียเฉย ๆ เห็นเสือเชื่องเปรย ๆ ให้คนโน้นคนนี้ฟังอย่างผู้แพ้ "เราขี้คร้านยุ่งกับมัน ไอ้สองตัวนี้เถือนแรง" ไอ้สองตัวนี้หมายถึงไอ้จบหน้าบากกับไอ้ลูกหมีนั่นเอง ทั้งที่เสือเชื่องเองก็นับว่าเถื่อนไม่เบาอยู่คนหนึ่งเหมือนกัน
ครั้นหมดยุคหลุมโกช็อคกับหลุมลุงกีดซึ่งได้แร่มากแล้ว และนักเลงจากชะอวดเกิดหักหลังฆ่ากันเองจนตายหมดเช่นกัน เหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปบนเขาศูนย์ก็กลับคืนสู่สภาพปกติอีกครั้งหนึ่ง จะมีบ้างเพียงคดีฆ่ากันตายธรรมดาเท่านั้น อาจเป็นเพราะว่าไม่มีหลุมไหนถูกแร่มากจนน่าอุกน่าปล้นยังกับสองหลุมนี้ก็เป็นได้ นั่นแหละจึงเป็นยุคของนักเลงในท้องถิ่นที่ผลัดกันขึ้นเป็นเจ้าพ่อเขาศูนย์อย่างแท้จริง ช่วงนั้นแม่ละม้ายซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ กับเสือคลี่เกิดถูกหลุมแร่พอดี แม่ละม้ายเป็นคนชวนเสือคลี่ขึ้นเขาศูนย์เป็นครั้งแรก เสือคลี่เป็นนายหัวหลุม
แม่ละม้ายไม่ถึงเดือนแม่ละม้ายก็ถูกยิงตาย ในที่สุดหลุมแม่ละม้ายก็ตกเป็นของเสือคลี่ และเสือคลี่คงได้เงินจากหลุมนี้ไม่น้อยหลายล้านอยู่เหมือนกัน
เนื่องจากเสือคลี่มีเงินล้านบวกกับความเป็นมือปืนชื่อดัง เลยทำให้แกเป็นเจ้าพ่อในตลาดฉวางโดยอัตโนมัติ แต่มิใช่เจ้าพ่อเขาศูนย์ เพราะช่วงที่มีเงินล้านอยู่นี้เสือคลีมิค่อยได้ขึ้นเขาศูนย์ แกมัววุ่นวายกับเรื่องวัวชน งานสังคมตลอดจนสละเงินบำรุงวัดวาอาราม นอกจากนี้เสือคลี่ยังสร้างฐานะของตัวเองให้มั่นคงขึ้น ด้วยการชื่อรถกระบะสองคัน สร้างบ้านไม้สองชั้นสองหลัง หลังหนึ่งแกอยู่เองอีกหลังหนึ่เปิดเป็นร้านตัดผม ส่วนหลังบ้านซึ่งอยู่ติดกับตลาดสดเสือคลี่ยังสร้างห้องแถวเล็ก ๆ ห้าหกห้องให้คนเขาเช่า
เสือคลี่เป็นนักบริจาคช่วยเหลือการกุศลชื่อดังคนหนึ่ง แกชอบบริจาคเงินช่วยเหลือทางราชการครั้งละเป็นหมื่นเป็นแสน หมู่นี้จึงเห็นเสือคลี่แต่งตัวเรียบร้อย บางครั้งก็ใส่สูทผูก
เน็กไทออกงานเจ้านายในจังหวัดบ่อย ๆ ทุกครั้งเสือคลี่จะขนลูกน้องมือปืนคุ้มกันเต็มสองคันรถ ตบท้ายด้วยการเลี้ยงดูปูเสื่อลูกน้องอย่างดี กินกันเพียบสมกับการเป็นเจ้าพ่อจริง ๆ
เพราะเหตุเสือคลี่เป็นนักบริจาคใจใหญ่นี่เอง ฝาบ้านแกจึงแขวนเต็มไปด้วยประกาศนียบัตรหลายใบจากหลายกรมหลายกระทรวง ทุกใบล้วนแต่เขียนสรรเสริญอวยพรเสือคลี่เป็นทำนองเดียวกัน " ขอมอบประกาศนียบัตรใบนี้เพื่อแสดงว่า คุณคลี่เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือทางราชการและประเทศชาติด้วยดีเสมอมา ขออวยพรให้จงมี อายุ วรรณ สุขะ
พละ เทอญ "
เสือคลี่มิใช่เป็นมือปืนจอมขี้ขลาดดังที่คนเขาร่ำลือ อันที่จริงถึงต่อหน้าแกก็ไม่เคยขี้ขลาด
ครั้งหนึ่งในบริเวณโรงพักฉวากมีงานเลี้ยงสังสรรค์ ระหว่างข้าราชการตำรวจกับพ่อค้าประชาชน งานนี้จัดขึ้นเนื่องในวันอะไรหรือวัตถุประสงค์อะไรผมก็จำไม่ได้ แต่ที่จำได้แน่ ๆ งานนี้เสือคลี่เป็นเจ้าภาพฝ่ายปัจจัย เสือคลี่นั่งร่วมโต๊ะกับผู้บังคับกอง ซึ่งเป็นคนละผู้กองกับคนแรกที่จับแกเข้าคุกนะครับ ส่วนผมนั่งโต๊ะถัดไป งานนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยเป็นกันเอง บนเวทีมีการกล่าวปราศรัยร้องเพลงกับฟ้อนรำ ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานเฮฮาอยู่นั้น เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็บังเกิดขึ้นจนได้ เมื่อมีนายร้อยตำรวจตรีหนุ่มคนหนึ่งเพิ่งจบมาใหม่ ๆ จะชื่อนามสกุลอะไรก็อย่าไปทราบเลย เพราะปัจจุบันนี้ท่านก็เป็นถึงนายพันมือปราบของกรมตำรวจไปแล้ว ( เรื่องนี้กลับมารีเมคใหม่นะครับถ้าจริงแล้วท่านคงเกษียณหรือเสียชีวิตไปแล้วก็ไม่ทราบได้) ผู้หมวดคนนี้ไม่ทราบว่ากินเหล้าเมามาจากโต๊ะไหน
เห็นเดินเซ ๆ คู่กันมากับพลตำรวจคนหนึ่งมายืนหยุดตรงโต๊ะที่เสือคลี่นั่งอยู่
แล้วผู้หมวดคนนี้ก็ถามพลตำรวจที่มาด้วยกันด้วยท่าท่างเครียด ๆ พร้อมชี้มาที่เสือคลี่
" คนนี้หรือเสือคลี่มือปืนผู้ยิ่งใหญ่" เสือคลี่เหลียวขวับไปมอง พร้อมตอบสวนทันควันด้วยท่าทางไม่แพ้กัน "ใหญ่ไม่ใหญ่มึงอยากจะลองกับกูก็ได้" ว่าแล้วเสือคลี่ก็ผลุนผลันลุกขึ้นจะเดินเข้าไปหา ดีแต่ว่าโต๊ะนั้นมีนายตำรวจหลายคนคอยห้ามไว้ โดยเฉพาะผู้กองถึงกับเดินมาห้ามปรามเสือคลี่เป็นเชิงขอร้อง " อย่าไปถือสาเลย เด็กเพิ่งจบมาใหม่ ๆ ยังไม่ประสีประสาอะไร " ถึงกระนั้นกว่าจะเอาเสือคลี่สงบสติอารมณ์ลงได้ก็เล่นเอาวุ่นวายหมดทั้งงาน
เสือคลี่เป็นเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่สุดขอบฟ้าได้สักปีกว่าก็หมดเงิน เพราะแกไม่มีรายได้ทางไหน
พื้นฐานการค้าขายก็ไม่มี อีกทั้งสิ่งของผิดกฏหมายอย่างเช่น บ่อนการพนัน ไม้เถือน
เฮโรอีนแก่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยว ร้านตัดผมก็มีลูกค้าหยอมแหยมเพราะใคร ๆ ก็กลัวโดนลูกหลง
ห้องแถวเล็ก ๆ ก็มีคนเช่าแค่ห้องสองห้องเพราะไม่มีใครอยากเอาตัวเองไปผูกพันกับเสือคลี่ส่วนบ้านแกเองก็มีแต่พวกมือปืน นักเลงขี้เหล้าที่มากินเหล้าเมาเช้าเมาเย็น เพียงให้เสือคลี่
หมดเงินไปวัน ๆ เท่านั้นเอง และสิ่งที่ทำให้เสือคลี่หมดเงินมากที่สุดเห็นจะเป็นวัวชน แกซื้อ
วัวชนราคาแพงมาเลี้ยงไว้สี่ห้าตัว ทุกตัวล้วนแต่ถูกนักเลงวัวต่างถิ่น ค่อยนำวัวที่ดีฝีชนเหนือกว่ามาแอบซุมชนกับของแก เพราะรู้นิสัยดีว่าเรื่องวัวชนแล้วเสือคลี่จะใจถึงมากกว่าใคร ๆ
หรือพูดง่าย ๆ คนอย่างเสือคลี่จัดอยู่ในประเภทถึงวัวจะสู้ไม่ได้ แต่เจ้าของวัวสู้ได้ว่างั้นเถอาะ
ช่วงที่แกเป็นเจ้าพ่ออยู่นี้นักเลงวัวชนในตลาดฉวางต่างรวยไปตาม ๆ กัน เพราะถ้าวัวของ
เสือคลี่ชนกับของใครก็ให้เล่นวัวของคนนั้นเป็นทีเด็ด และวัวของเสือคลี่ก็แพ้หมดทุกตัว ผม
คิดว่าช่วงปีกว่า ๆ นี้แกเสียวัวชนรวม ๆ กันคงไม่น้อยกว่าล้านบาท
ครั้งเมื่อเสือคลี่่ขายวัวชนหมดคอกแล้ว แกไม่ค่อยฟู่ฟ่าและสุงสิงกับใคร จะซุกตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน วันหนึ่งแกพาสีหน้าซีด ๆ เซียว ๆ ไปนั่งคุยกับโกเก้าเจ้าของร้่าตัดผ้าชายภูษา
ซึ่งผมเองก็นั่งฟังอยู่ด้วย ตอนหนึ่งแกรำพันเป็นเชิงน้อยเนื้อต่ำใจให้เจ้าของร้านฟัง
"คนแบบกูทำดีไม่เคยได้ดี ต่อไปนี้ใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไรไม่ต้องมาหากู กูจะไม่ช่วยเหลือใครสักคน คนบ้านเรามีแต่พวกหมาแฉ คอยหลอกต้มหลอกแด(ก) กูทั้งเพ"
หลังจากวันนั้นเสือคลี่ก็แต่งตัวปอน ๆ ขึ้นเขาศูนย์อย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง รถกระบะสองคันก็ดัดแปลงเป็นรถโดยสาร รับส่งคนจากตลาดขึ้นศูนย์ ทุกเช้าเสือคลี่จะโหนท้ายรถของแกขึ้นเขาศูนย์ทุกวัน บางคราวแกก็ทำตัวเป็นเด็กรถไปเสียเลย ด้วยการตะโกนเรียกหาผู้โดยสารกับช่วยยกของขึ้นยกของลง การขึ้นเขาศูนย์ในช่วงนี้เสือคลี่ยังไม่จัดว่าเป็นเจ้าพ่อ จัดแค่เป็นมือปืนชื่อดังเที่ยวมาหาซื้อขี้ดินตามหลุมถูก ๆ แร่ซึงมีอยู่ราวสองสามหลุม และการ
ซื้อขี้ดินของเสือคลี่ก็มิต้องแหกปากแย่งกันซื้อเหมือนเช่นคนอื่น ๆ เพียงแค่เอ่ยปากเจ้าของหลุมก็ควักเงินให้แล้วครั้งละพันครึ่งพันแล้วแต่จะว่ากัน
วันหนึ่ง ๆ แกคงมีรายได้ไม่น้อยกว่ากว่าพันสองพันบาท แต่รายได้แค่นี้ถ้าเปรียบเทียบกับรายจ่ายที่แกมีลูกน้องหลายคนเดินตามหลัง ก็ไม่น่าจัดว่าเป็นผู้รายได้ดีแต่อย่างได จัดเพียงว่าแกหากินบนเขาศุนย์ไปวัน ๆ เท่านั้น ในระหว่างที่แกหากินไปวัน ๆ นี่เอง วันหนึ่งเสือคลี่
ก็มีโอกาสแสดงฝีมือยิงปืนแม่นให้ผมเห็นจนน่าทึ่งตราบเท่าทุกวันนี้
วันนั้นเวลาบ่าย ที่บริษัทเหมืองแร่เขาศูนย์ของ นายอุดม เย็นฤดี ซึ่งมีอดีตนายอำเภอคนดัง ร.ต.ท. ระบิล นานากุล เป็นผู้จัดการบริษัทนี้ตั้งอยู่ริมคลองหัวตลาดฉวาง วันนั้นบังเอิญ
ผมมีธุระไปที่บริษัท เมื่อไปถึงตรงข้างหลังบริษัทซึ่งติดกับทุ่งนาโล่งกว้างไกล มีหลายคน
กำลังประลองยิงปืนกันอย่างครื้นเครง คนดัง ๆ เท่าที่จำได้มี นายอำเภอ ระบิล เสือพลและผู้หมวดคนเดิมซึ่งแต่งเครื่องแบบเต็มยศเพิ่งติดสองดาว นอกจากนี้ยังมีลูกสาวนายอำเภอระบิลกับเพื่อนสาวชาวบางกอกอีกสามสี่คน สนามยิงปืนชั่วคราวแห่งนี้อยู่หลังจอมปลวกวาง
ขวดแม่โขงกลมหกใบเรียงห่างพอเหมาะอยู่บนโต๊ะ ระยะที่ยิงห่างประมาณสิบวา การยิงปืน
ก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันคนละหกนัด ยิงกันครบแล้วทุกคน ผลสรุปคุณผู้หมวดยิงปืนแม่นมากที่สุด ถึงอย่างไรก็ยิงผิดมากกว่ายิงถูก แต่เพราะเป็นผู้หมวดหนุ่มกับยิงปืนแม่นกว่าทุกคน จึงทำให้คุณผู้หมวดดูเด่นเป็นสง่าน่านิยม มีหลายคนอยากพูดจากับคุณผู้ถึงหลักวิธียิงปืน คุณผู้หมวดก็ใจดีแนะนำสอนให้ทุกคนด้วยเสียงดังฟังชัด เท่าที่จำได้ก็มี ยืนตัวตรง ๆ
เหยียดแขนตรง อย่าหลับตา อย่ากลัวเสียงปืน และอะไรอีกหลายคำ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะถูกต้องตามหลักวิธียิงปืนนั่นแหละครับ
ขณะที่คุณผู้หมวดกำลังอวดสาว ๆ เอ๊ย.. !!!!! กำลังแนะนำสอนวิธียิงปืนให้พวกเรา ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงองอาจสมชายชาตรีอยู่นั้น พลัน !! ต้องบังเอิญมีนักเลงฝีมือเหนือกว่ามาลบเหลี่ยมความแม่นปืนลงอย่างสิ้นเชิง นักเลงผู้นั้นก็คือ เสือคลี่ เวลานั้นเสือคลี่ไม่ทราบว่ามาจากไหน แกแต่งตัวมอซอ นุ่งกางเกงผ้าร้อยเปอร์เซ็น พับครึ่งแข็ง เท้าไม่ใส่เกือก
สวมเสื้อเชิ้ตสกปรกดำ ๆ แถมกระดุมยังขาดไปสองเม็ด บนบ่าคล้องห่อสะพาย กระโดดจากท้ายรถดัมพ์ซึ่งบรรทุกดินมาเต็มเมื่อรถจอดสนิทอยู่ตรงหน้า เสือคลี่ปัดเสื้อปัดกางเกงพอให้ขี้ดินหลุด แล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปยกมือไหว้นายอำเภอระบิลตามมารยาท เสือคลี่นั่งดูเขาซ้อม
ยิงปืนอยู่พักหนึ่ง แกก็ลุกขึ้นเดินไปยกมือไหว้นายอำเภอระบิลอีกครั้งเป็นการร่ำลา เสือคลี่
เดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกนายอำเภอระบิลเรียกกลับ มาอีก
"นายคลี่ นายคลี่กลับมาก่อน จะรีบไปไหน ๆ มาลองยิงปืนให้ดูสักตั้งซิ"อันความจริงเสือคลี่
มิใช่เป็นคนขี้โม้ขี้คุยถ้ามิใช่นายอำเภอ ระบิลขอร้องผมขอรับรองเสือคลี่ไม่อวดฝีมือเด็ดขาด
ด้วยความเกรงใจเสือคลี่เดินไปหยุดอยู่ตรงเส้น แล้วชักปืน ๑๑ ม.ม.จากเอว โดยไม่ต้องเล็ง
ไม่ต้องยืนตัวตรง และไม่ต้องเหยียดแขนตรง แกเหนี่ยวไกทันที เสียงปืนที่ดัง ปัง ! ปัง ! หกนัดทำให้ขวดแม่โขงแตกเสียงดัง เพ้ง ! ทั้งหกใบตามแรงปืนท่ามกลางสายตาของทุกคนต่างตะลึงนึกไม่ถึงว่าเสือคลี่จะแม่นปืนถึงขนาดนี้
เสือคลี่ปลดแมกกาซีนออกใส่กระเป๋ากางเกง กระชากลูกเลื่อน ดีดปลอกกระสุนที่คาลำกล้องกระเด่นออกมา แกตามตะครุบใส่กระเป๋าเสื้อ เป่าปากกระบอกปืนหน่อยหนึ่งแล้วเก็บปืนยัดเข้าเอวหิ้วห่อผ้าคล้องไหล่จากไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฝ่ายคุณผู้หมวดก็เหมือนกัน คือเก็บปืนเข้าซองข้างเอว แล้วเดินออกจากที่ยิงปืน แต่ไปคนละทางกับเสือคลี่
_____________________________________
Chanpa
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สุดยอด
ตอบลบ