เรื่องทุกเรื่องเป็นอดีตไปหมดแล้ว เกิดจากความจำ เกิดจากอารมณ์ขำ อ่านแล้วไม่เครียด อ่านแล้วขำลึก ๆ นึกขึ้นมาที่ไรก็เบิกบานทุกครั้ง
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555
คบชู้ สูชาย
แม้ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์จะเป็นประเทศเล็ก ๆ ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา แต่
ราชอาณาจักรแห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกจากพระนามของ สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 ผู้สร้างวีรกรรมระบือลือลั่นด้วยการรับหญิงสาว ชาวสวาซิแลนด์มาเป็นพระมเหสีนับจนกระทั่งถึงปัจจุบัน 13 คน และจำนวนนี้ท่านก็ยังไม่นิ่ง เพราะยังทรงตั้งหน้าตั้งตา
เสาะแสวงหาผู้หญิงมาเป็นพระมเหสีตลอดเวลา
จำนวนพระมเหสีที่มีตัวเลขสองหลักทำให้มีเสียงนินทา สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3
จะทรงบริหารเวลาอย่างไรกับพระมเหสีเหล่านี้ และจะทรงดูแลให้พวกเธอมีความสุขได้ครบถ้วนทุกคนล่ะหรือ ข้อกังขานี้ไม่มีคำตอบ จวบจนกระทั่งต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมา เกิดเรื่องงามหน้าขึ้นด้วยฝีมือของ เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ พระมเหษีลำดับที่ 12 อดีต มิสทีน สวาซิแลนด์ พระชนม์ 22 ชันษา
แม้จะทรงเป็นพระมเหสีอันดับที่ 12 แต่เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงเป็นที่โปรดปรานของ สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 มากว่าพระมเหสีทุกพระองค์ ประจักษ์พยานที่ยืนยันในเรื่องนี้ดูได้จากครั้งที่ รัฐบาลไทย กราบบังคมทูลองค์พระประมุขของราชอาณาจักรต่าง ๆ ทั่วโลกให้เสด็จมาร่วมงานพระราชพิธีและงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทย สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 โปรดเกล้าฯให้เจ้าหญิง โนทันโด ดูเบ ตามเสด็จ
แต่หลังจากนั้น เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงเริ่ม Cans fall (ตกกระป๋อง" อันนี้ผมพูดเอง") ไม่เป็นที่โปรดปรานของ สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 อีกต่อไป ด้วยพระชนม์ที่น้อยนิด
แม้จะทรงมีพระโอรสพระธิดา 2 องค์ แต่เจ้าหญิงองค์นี้ยังทรงสาวมากเกินกว่าที่จะย่อมรับได้
ว่าพระองค์ทรงถูกทอดทิ้งจากพระสวามี เมื่อพระสวามีไม่สนพระทัยพระองค์อีกต่อไป
เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ จึงทรงหันไปหาชายอื่นแทน
การกระทำดังกล่าวไม่อาจจะเล็ดรอดหูตาของชาวสวาซิแลนด์ไปได้ มีเสียงซุบซิบนินทาถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเจ้าหญิง โนทันโดดังกระหึ่ม ไม่มีการระบุชื่อของชายชู้ทั้ง ๆ ที่แหล่งข่าวยืนยันว่า " คนรู้กันทั่วว่าเขาเป็นใคร " เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงคบชู้สู่ชายอยู่นานหลายเดือนและทรงเลือกเวลาที่พระสวามีไม่ได้ประทับอยู่ที่กรุงอัมบาบาเนเมืองหลวงของประเทศ หรือเสด็จไปต่างประเทศ เจ้าหญิงจะทรงปลอมพระองค์ออกจากพระตำหนัก
ที่ประทับด้วยการเปลี่ยนฉลองพระองค์ เป็นฉลองพระองค์ทหารก่อนที่จะ เสด็จออกไปนอกพระราชวังโดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
สถานที่ที่เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงนัดพบกับชายชู้ของพระองค์คือโรงแรมรอยัล วิลล่า
โรงแรมที่ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังโลซิทาที่ประทับไปประมาณ 10 กิโลเมตร และทรงลักลอบพบกับชู้อยู่เช่นนี้โดยไม่รู้พระองค์เลยสักนิดว่า ทรงกำลังถูกหน่วยข่าวกรองของ
กองทัพจับตาการเคลื่อนไหวของพระองค์อยู่ตลอดเวลา
โชคดีที่เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ และชายชู้ไม่เคยถูกจับได้คาหนังคาเขาเลยสักที จนเจ้าหญิงทรงเกิดความย่ามใจ การระมัดระวังพระองค์ก็ค่อย ๆ หย่อนลงไปเรื่อย ๆ และความลับ
ที่อุตส่าห์เก็บงำมานานหลายเดือนก็แดงโร่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในช่วงที่
สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินไปกระชับสัมพันธไมตรีกับไต้หวัน
เหมือนทุกครั้งที่พระสวามีไม่ประทับอยู่ในประเทศ เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงแอบนัดกับชายชู้ของพระองค์ทันทีโดยเลือกโรงแรมรอยัล วิลล่า เป็นที่นัดพบกันเช่นเคยและกำหนดเอาไว้ว่าจะนัดเจอกันในวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม ตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวในวังได้เปิดเผยว่า " เหมือนทุกครั้งที่เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ เสด็จออกไปพบชายชู้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นฉลองพระองค์ทหารและสามารถเสด็จผ่านทหารวังที่รักษาการณ์อยู่ที่ประตูพระราชวังเหล่านั้นมิได้ผิดสังเกตแต่อย่างไร เมื่อเสด็จพระดำเนินพ้นเขตพระราชวัง ได้มีรถยนต์คันหนึ่งจอดซุ่่มรออยู่ เจ้าหญิงเสด็จขึ้นรถยนต์คันนี้ซึ่งวิงมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรม
รอยัล วิลล่า "
เจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ ทรงคิดว่าการกระทำของพระองค์คงจะไม่มีผู้ใดรู้เห็นเหมือนทุกครั้งโดยทรงไม่รู้เลยสักนิดเดียวว่าคราวนี้หน่วยข่าวกรองของกองทัพได้วางแผนจับชู้ให้ได้
คาหนังคาเขา ในช่วงเวลาที่เจ้าหญิงอยู่กับชายชู้สองต่อสองภายในห้องพักของโรงแรมนั่นเอง นายทหารของหน่วยข่าวกรองได้บุกเข้าไปในห้องพักและพบว่าเจ้าหญิงอยู่บนเตียงนอน ส่วนชายชู้ไหวตัวทันรีบหลบไปอยู่ใต้เตียง แต่เขาไม่อาจจะหนีไปไหน ท้ายที่สุดก็ต้อง
โผล่หน้าออกมา
ทันทีที่เห็นหน้าของชายที่แอบมาตีท้ายครัว เหล่าทหารถึงกับช็อกเพราะชายคนนั้นก็คือ
เอ็นดูมิโช แมบบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั่นเอง และที่น่าเจ็บปวดใจมากไปกว่า
นั้น เขาคนนี้เป็นพระสหายกับสมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 มาตั้งแต่เด็ก จึงเป็นเรื่องที่
คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้
นายทหารผู้ปฏิบัติการจับชู้ ได้นำตัวของรัฐมนตรีส่งให้กับสถานีตำรวจซึงสอบปากคำของเขาก่อนจะส่งตัวเข้าคุกด้วยความผิดโทษฐาน "ไปอยู่บ้านของชายอื่น" ซึ่งมีโทษรุนแรง
ถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว ส่วนเจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ เองไม่อาจจะหนีความผิดไปได้ มีการนำตัวของเจ้าหญิงไปกักบริเวณอยู่ที่พระราชวังของสมเด็จพระราชนนีผู้ทรงปฏิบัติหน้าที่
เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 เสด็จฯไปปฏิบัติ
พระกรณี่ยกิจต่างแดน
ข่าวนี้ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด เพราะสื่อของราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเสนอข่าวของราชวงศ์อย่างเด็ดขาด แต่ข่าวสุดฉาวโฉ่ไม่อาจจะรอดพ้นเงื้อมมือของ
สื่อต่างประเทศไปได้ สือของประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประเดิมเสนอข่าวลักลอบเป็นชู้
ระหว่างเจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ กับ เอ็นดูมีโช แมบบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอย่าง
เอิกเกริก
เมื่อมีผู้เริ่มย่อมมีผู้ตาม ในไม่ช้าสื่อในประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างราชอาณาจักรสวาซิแลนด์
พร้อมใจกัน เสนอข่าวนี้ ชนิดเจาะลึก กันที่เดียวมีการสัมภาษณ์พระสหาย ของเจ้าหญิง
โนทันโด ดูเบ ผู้อ้างว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ
"เจ้าหญิงทรงไม่มีความสุขที่พระองค์ตกเป็นเหยื่อข่าวลือที่นำความเสื่อมเสียมาสู่พระองค์มาก และทรงมิได้ถูกกักบริเวณให้ประทับอยู่ในพระราชวังของสมเด็จพระราชชนนี แต่อย่างไร "
แต่ไม่ว่าจะทรงเพียรปฏิเสธสักเพียงใด ความจริงก็ย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ มีข่าวว่า
เอ็นดูมีโซ แมบบา ถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ
ติดคุกรอการพิพากษาโทษ ส่วนชะตากรรมของเจ้าหญิงโนทันโด ดูเบ แม้จะยังไม่แจ่มชัดว่าจะถูกลงโทษสถานใด เชื่อกันว่าจะทรงถูกขับออกนอกประเทศและจะต้องประทับอยู่ต่างแดน
จนชั่วชีวิต
ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีเอ็มสวาติที่ 3 อาจจะทรงเสียความรู้สึกบ้าง แต่ไม่ช้าก็คงจะทรงลืมได้หมด เพราะทรงกำลังเตรียมรับสาวสวาซิแลนด์ เป็นพระมเหษีองค์ใหม่ เจ้าหญิง
โนทันโด ดูเบ อาจจะเป็นอดีตที่ไม่มีคุณค่าควรให้พระองค์จดจำ เลยแม้แต่นิดเดียว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ดหากถูกขับออกประเทศจริง ดีใจด้วยกับเจ้าหญิงดูเบื ที่จะไม่ต้องเป็นทาสในนรกแห่งความมักมาก อยู่นอกประเทศอิสระดีที่สุด
ตอบลบ"..ครับผมเห็นด้วย.."
ลบ"..ครับผมเห็นด้วย.."
ตอบลบ