วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556

รำพึงถึงโสเภณี

                                                 

                                               รำพึงถึงโสเภณี


กล่าวกันว่าโสเภณีเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก   ซึ่งผมออกจะไม่เห็นด้วย  อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดต้องเป็นอาชีพ  พ่อ-แม่  เล้า  ถึงจะถูก  อาชีพที่เก่าแก่ที่สองต้องเป็นอาชีพแมงดา  โสเภณีนั้นควรจะมาที่สาม  มีข้อบันทึกไว้ว่า  แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็เคยถูกโสเภณีกล่าวหาว่าเป็นพ่อของลูกในท้องของเธอ  นี่แสดงว่าในสมัยพุทธกาลโสเภณีก็ออกอาละวาดมาแล้ว


โสเภณีในเมืองไทยอุบัติขึ้นแต่เมื่อไร  เพราะเหตุไร  น่าจะได้มีการค้นคว้ากันบ้าง  น่าจะเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของพวกนักเรียนทางสังคมวิทยาได้ดีที่ดียว  วัดคณิกาผล  ซึ่งสร้างมาจากเงินลงขันของพวกคุณเธอ  ก็เป็นหลักฐานที่ดีว่า  อาชีพนี้เฟื่องฟูและหยั่งรากฐานแล้วในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์



จากการครุ่นคิดของตัวเอง  ผมแบ่งโสเภณีออกเป็น ๔ ประเภท คือ ๑. พวกถูกบังคับทางเศรษฐกิจ  ๒. พวกถูกบังคับทางร่างกาย  ๓. พวกแรด ๔. พวกอยากรวยเร็ว จะเห็นว่าสองพวกแรกจะเป็นพวกถูกบังคับ (ความจริงน่าจะมีภาษาอังกฤษวงเล็บไว้หลังคำว่า "ถูกบังคับ" ด้วย จะได้ดูขลังเหมือนที่พวกนักวิชาการเขาชอบทำกัน) ส่วนสองพวกหลังเป็นพวกสมัครใจ (Voluntree) ผมจะลองขอขยับปากกาวิจารณ์โสเภณี ๔ ประเภทนี้ พอเป็นสังเขป


ท่านผู้อ่านได้โปรดอย่่าเข้าใจผิดว่าผมเป็นนักเที่ยวโสเภณีตัวฉกาจ   ที่ดั้นด้นไปทุกตรอกซอกซอย  เพื่อแสวงหาความสุขชั่วคราวจากพวกเธอเหล่านั้น  แต่ผมก็ขอยอมรับว่าผมไม่ใช่อริยะบุคคลขั้นไหน ๆ ก็ตามที่จะพ้นจากกองกิเลส  ในสมัยวัยหนุ่มฉกรรจ์  ผมก็เคยออกไปบ้างเป็นครั้งคราว  แต่ต้องขอแก้ตัวว่าส่วนใหญ่จะไปโดยอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Peer Pressure คือกลุ่มเขาจะไปกัน ถ้าเราไม่ไปด้วย เขาก็จะหาว่า ไอ้นี่แหย ไม่แน่จริง อะไรทำนองนั้น ก็เลยต้องติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยคน  เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ (กลายเป็นซัดทอดเพื่อนไปเสียฉิบ)


ท่านผู้อ่านที่เป็นพ่อแม่ของคนหนุ่ม ๆ ก็พึงอบรมสั่งสอนบุตรชายของท่านนะครับ พูดตรง ๆ ไปเลยไม่ต้องอ้อมค้อม  ว่าอย่าตกเป็นทาสของ Peer Pressure เพื่อน ๆ ชวนไปเที่ยวโสเภณีก็ควรจะบอกว่า นี่ไม่ใช่หนทางของลูกผู้ชาย  ลูกผู้ชายที่แท้จริงต้องเอาชนะใจตัวเองได้ ต้องไม่ไปเที่ยว ถ้าไปก็เท่ากับช่วยเติมน้ำมันลงไปบนกองเพลิง  ก็จะยิ่งทำให้อาชีพอันโหดร้ายต่อจิตใจของทุก ๆ คน หยั่งรากลึกลงไปอีก  ลูกผู้ชายที่แท้จริงต้องช่วยกันขจัดอาชีพนี้ออกไปจากผืนแผ่นดินไทยให้หมดด้วยการบอยคอตไม่ไปเที่ยว


หันมาวิจัยกันต่อ

๑. พวกถูกบังคับทางเศรษฐกิจ (Economically Forced)

ชื่อก็บอกโต้ง ๆ อยู่แล้วว่าถูกสภาวะเศรษฐกิจบีบคั้น ไม่มีเงินจะัชื้อปัจจัยสี่ (เดี๋ยวนี้มีถึงปัจจัย ๔,๕,๖,๗,กันแล้วขายกันจนหมดตัวราคาตกก็ยังไม่พอกับตัญหาที่ต้องการ)  เพื่อดำรงชีวิตอยู่รอดได้ว่างั้นเถอะ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไม่ต้องมายึดอาชีพนี้ทั้งที่อาชีพอื่นก็มีให้ทำถมเถไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งถ้าจะตั้งเป็นทฤษฎีกันให้เมาปากกาก็ต้องแยกย่อยลงไปเป็นแขนงอีก เช่น ๑.๑ พวกถูกบังคับทางเศรษฐกิจและแรดด้วย ๑.๒ ฯลฯ

พวกกลุ่ม ๑.๑ นี้มีแต่ตายกับตายลูกเดียวครับ ยังไง ๆ ก็ต้องเป็นคุณตัวแน่ ๆ ณ ที่นี้เราจะเพ่งแต่เฉพาะพวกกลุ่ม ๑.๒๓ คือพวกกลุ่มถูกบังคับทางเศรษฐกิจแต่รักศักดิ์ศรี  ต้องเข้าใจพื้นฐานก่อนนะครับว่าพวกกลุ่ม ๑ ทั้งหมดนี้ เป็นพวกยากจน  ซึ่งก็หมายความว่ามีการศึกษาน้อยโลกทัศน์ก็ย่อมแคบไปด้วย  แต่ผมไม่ได้หมายความว่าพวกมีการศึกษาสูงแล้วโลกทัศน์จะกว้างนะครับ ในทางกลับกันพวกการศึกษาน้อยก็อาจมีโลกทัศน์กว้างก็ได้ ถ้ารู้จักขวนขวาย  ดูอย่างพระอรหันต์เจ้าในอดีตสิครับมีการศึกษากันที่ไหน  แต่ก็อาจขยายโลกทัศน์ของท่านออกไปถึงอนันต์ได้


ทั้งยากจน  โลกทัศน์แคบ  ไม่รู้เท่าทันคน  พอเข้ามาสู่เมืองมีคนเขาหลอกว่าไปทำงานกับฉันซิ งานเบา  เงินดี  ก็ไม่แคล้วต้องถลำเข้าไป  พอคิดจะเลิกก็สายเสียแล้ว  ไหน ๆ ก็เปื้อนโคลนเสียแล้วล้างยังไงก็ไม่ออก  ก็โดดลงโคลนมันไปเสียเลยสิ้นเรื่องสิ้นราว  พวกนายหน้าแม่เล้าบางคนก็อาจเติมปรัชญาชีวิตลงไปให้อีกว่า  เฮ่ย!  อย่าไปคิดมากอะไรเลย  ของมันไม่เห็นจะสึกหรออะไร สบาย ๆ ได้เงินดีจะไปอาทรร้อนใจทำไม่


เรื่องพ่อแม่ขายลูกสาวให้ไปเป็นโสเภณีในเมื่องนี่  ก็จัดเข้ากับกลุ่มนี้เหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงเท็จประการใด  แต่ได้ยินบ่อยเหลือเกิน ในอเมริกาถึงกับมีรายการทีวีแพร่ภาพไปทั่วราชอาณาจักร  เขาไปถ่ายทอดการประมูลราคาเด็กสาวทางภาคเหนือ  เพื่อเอามาขายเป็นโสเภณีในกรุงเทพฯ  นัยว่ามีการตั้งปะรำเอาเด็กออกมาโชว์ตัว  แล้วประมูลกันแบบวัวควายเลย รายการนี้ผมไม่ได้ดูกับตาเพื่อนเอามาเล่าให้ฟัง  เป็นรายการชื่อ Prime Time  ของ  CBS-TV พิธีกรคือ Sam  Donaldson กับ Diane Sawyer ที่ผมเอาชื่อบุคคลและรายการลงตีพิมพ์นี้  ก็เพราะต้องการประกาศให้พี่น้องชาวไทยได้รู้ เผื่อใครคิดอยากจะประท้วงรายการนี้จะได้ระบุกันถูก  แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเราต้องส่องกระจกดูตัวเราก่อนว่่า  เรื่องเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า  รัฐบาลควรจะตั้งคณะกรรมการสอบสวน  ผมว่า! ถ้าเป็นเรื่องจริงเราก็ต้องแก้ไขและขอบคุณรายการเขาที่ช่วยกระตุ้นจิตใต้สำนึกของเรา


ผมออกจะลำเอียงเข้าข้างพ่อแม่เด็ก  เรื่องการซื้อตัวเด็กอาจจะมีจริง  แต่นายหน้าอาจจะหลอกว่า  มาหาเด็กเอาไปทำงานโรงงานทอผ้าในกรุงเทพฯ  ถ้าพ่อแม่อนุญาตก็จะให้เงินเป็นการตอบแทนเท่านั้นเท่านี้  พร้อมกับมีรูปโรงงานที่มองเห็นเด็กรุ่น ๆ ทำงานกันเป็นแถว ๆ เบื่องหลังเครื่องทอผ้าให้พ่อแม่ดู  และอาจจะมีกลเม็ดล่อลวงที่แยบยลต่าง ๆ อีกมากมาย  พ่อแม่ก็ยากจนและโลกทัศน์แคบ ก็หลงเชื่อว่าลูกสาวจะไปได้ดี  ตัวเองก็จะได้เงินก้อนหนึ่งแถมยังไม่ต้องหาเผือกหามันมาเลี้ยง  อีกโสดหนึ่งด้วยเผลอ ๆ แกอาจจะฝันละเมอว่าสักปี ๒ ปีจะได้เข้าไปเยี่ยมลูกสาวในกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์กับเขาบ้าง  เกิดมาก็ไม่เคยออกไปจากหมู่บ้านเสียที  ทุกสิ่งทุกอย่างดูมันลงตัวพอดิบพอดี  ผมคิดไม่ออกว่าพ่อแม่จะขายลูกสาวให้ไปเป็นโสเภณีได้ลงคอ


ไม่ว่าจะโง่และยากจนเพียงใด  มองอีกแง่หนึ่ง  คงไม่มีนายหน้าค้าเด็กหน้าโงรายไหนจะออกไปยังหมู่บ้าน  แล้วป่าวประกาศว่าจะมาซื้อเด็กหญิงไปขายซ่อง  เรื่องนี้ถ้าจะสืบกันให้กระจ่างจริง ๆ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ควรจะมีเจ้าหน้าที่ราชการให้ความสำคัญ  และสืบสาวเอาความกันให้ดี ทีวีช่องไหนอยากเป็นขวัญใจประชาชนก็อาจจะสืบเรื่องนี้ด้วยตนเอง (ปัจจุบันก็มีการทำกันอยู่อย่างต่อเนื่อง) แล้วทำสารคดีออกเผยแพร่ภาพออกอากาศ  อาจจะเป็นสารคดีที่ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปีไปเลยก็ได้ฃ


๒. พวกถูกบังคับทางร่างกาย (Physically Forced)

ก็จะโดนตบตีทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยวจากพวกอาชีพเก่าแก่ที่สองของโลกนะซิครับ  อันนี้ได้มีหนังละครได้เอามาตีแผ่อยู่หลายเรื่อง  คงไม่ต้องอธิบายกันมากก็คงพอเข้าใจกันได้

๓. พวกแรด (Happily Volunteer)

ผมไม่รู้ภาษาอังกฤษเขาเรียกพวกแรดว่าอย่างไร  ก็เลยใช้คำที่วงเล็บไว้ แปลว่า พวกสมัครใจทำแล้วมีความสุข ข้อสำคัญสนุกด้วย  ได้เงินด้วย (ติดโรคต่างหากถ้ารักษาตัวไม่ดี)สบายเขาละ

๔. พวกอยากรวยเร็ว (Day-Dreamer Volunteer)

ภาษาอังกฤษที่วงเล็บไว้บอกว่าเป็นพวกฝันกลางวัน (แต่ออกหากินเวลากลางคืน) ฝันอยากมีบ้านสักหลัง รถสักคัน ตามสมัยและค่านิยมของสังคมไทย  แต่ไม่มีความสามารถทางด้านใด ๆ พอมีความสาวและความสวยอยู่ บวกกับความแรดก็เลยหันมายึดอาชีพนี้  โดยมากพวกนี้ทำงานอิสระไม่มีสำนักและรับเฉพาะขาประจำกระเป๋าหนัก ประเภทเจ้าของธุระกิจและนักการเมือง การทหารระดับสูง

จะเห็นได้ว่าสองประเภทแรกเป็นพวกที่ถูกบังคับ  ส่วนสองประเภทหลังเป็พวกสมัครใจ  พวกถูกบังคับสามารถแก้ไขให้ลดจำนวนลงได้ด้วยการกวดขันจับกุม ทลายแหล่งค้าสวาท  และให้ข้อมูลการศึกษาอาชีพ  พร้อมกับการอบรมอาชีพควบคู่กันไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติกระจายรายได้ สร้างงานพร้อม ๆ กันไป (เอ๊ะ! ฟังคุ้น ๆ หู) ส่วนพวกสมัครใจไม่มีทางที่จะแก้ไขได้  ประเทศที่เจริญแล้ว รวยแล้ว ก็มีโสเภณีพวกนี้อยู่เกลื่อนกลาด อย่างในอเมริกาก็มีมากมาย อิสระอีกต่างหาก ประเทศแถบคาบสมุทร สแกนดิเนเวีย (Scandinavian)ได้แก่ พวกปรเทศ นอร์เวย์ Norway  สวีเดน (Sweden)  ฟินแลนด์ (Finland) เดนมารก์ (Denmark) เหล่านี้เป็นต้น อย่างในอเมริกาก็มีมากมายพวกคุณเธอจะมายืนอยู่ริมถนนรนแคม เหมือนกับว่ารอใครสักคนหนึ่ง  พวกนักเที่ยวก็จะขับรถเข้ามาเทียบและต่อรองราคากัน  เมื่อเป็นที่ตกลงก็รับขึ้นรถไป  อย่างในอเมริกาต้องมีประเภทที่ห้าเข้ามาอีกคือพวกติดยา  ได้มาเท่าไร ก็เอาไปซื้อยามาฉีดเข้าเส้นกัน โม๊ด!

 เขียนถึงการจับกุม  ผมว่าต้องมีการจับกุมผู้ชายที่ไปเที่ยวด้วย  แล้วให้พิมพ์ชื่อและรูปถ่ายลงหนังสือพิมพ์ด้วย ผัวใคร ลูกชายใคร  ถูกจับจะได้จะได้เจ๋งกันได้ถูก

เมืองไทยเราได้รับสมญาว่าเป็น Sex Capital of The World (เมืองหลวงกระหรี่ของโลก) ไปแล้วสงสารเด็กนักเรียนหญิงไทยที่ไปเรียนเมืองนอก  พอบอกเขาว่ามาจากเมืองไทยก็พูดไม่ค่อยจะเต็มปากเต็มเสียง ไม่ภูมิใจและฉาดฉาน  กลัวเขาจะหาว่าเป็นอีตัวแกล้งขอวีซ่านักเรียนเข้าประเทศเพื่อจะไปหาเงิน  รัฐบาลคิดแต่จะหาเงิน (อ้อ! กู้เงินแหลก)เข้าประเทศ เงินเต็มกระเป๋าแต่ไม่มีศักดิ์ศรี  บางคนอาจจะว่าดีกว่าศักดิ์ศรีแต่ยากจน  ศักดิ์ศรีซื้อข้าวกินไม่ได้ แต่เงินซื้อได้ทุกอย่าง  แม้แต่ศักดิ์ศรีก็ซื้อได้


อันนี้ก็จริงอยู่หรอกครับ  ผมเกรงแต่ว่าเราจะไม่มีชีวิตอยู่ยืนยาวพอที่จะใช้เงินและศักดิ์ศรีได้อย่างมีความสุขเพราะจะพากันตายด้วยโรคเอดส์ ซิฟิลิส  และหนองในกันหมดประเทศเสียก่อนนะซี่ พวกที่ยังไม่ตายและเป็นโรคพวกนี้ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น


                                   


                                            ---------------------------------------







 












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น