วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

หมากับคน (ตอนที่ ๑)




                                               หมากับคนหรือคนกับหมา

       ก่อนอื่นกระผมขอออกตัวเสียก่อนว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้  เป็นเรื่องที่เลยมาแล้วเกือบสี่สิบปีและในปัจจุบันเหตุการณ์ (incidence) อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เพราะเป็นเรื่องราวเก่า ๆ เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นที่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ ต้องย้ำนะครับว่าอังกฤษ เพราะประเทศนี้มีความเป็นมาน่าศึกษา แค่ฉายา ก็ทำให้เราและท่าน สงสัย เช่น เป็นดินแดนที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เป็นดินแดนเมื่องผู้ดี เป็นประเทศที่ไม่ค่อยจะมีแดด ไปไหนก็ต้องมีร่มติดตัวตลอดเวลา (ฝนตกบ่อยเหลือเกิน) เป็นแม่แบบของประชาธิบไตย (ปัจจุบันชักไม่แน่ใจ)






                                                                  Terrier

     ที่อังกฤษนั้นอาจจะมีคนอดตาย  หนาวตาย  หรือจะตายด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ ก็จะไม่เป็นข่าวใหญ่โตแต่ถ้าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหมาขึ้นมาละก็เป็นเรื่องเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งที่เดียว เช่น ข่าวโรงงานผลิตข้าวหมาสไตรค์  หมาอดอาหาร  คนจะเดือดร้อนโวยวายกันเอิกเกริกเป็นข่าวออกวิทยุ ทีวี และหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ


     ความจริงแล้วหมานั้นกินอาหารคนก็ได้  แต่หมาเมื่องอังกฤษเขาไม่ทำกัน  แต่เดิมชาวอังกฤษนิยมเลี้ยงหมาอยู่เพียงบางชนิด คือ  ฟอกซฺฮาวน์ (Foxhound) บลัดฮาวน์ (Bloodhound) บีเกิล (Beagle) และ
บาสเซท (ฺฺฺBasset)

                                                               Foxhound

     ฟอกซฺฮาวน์  เป็นหมารูปร่างสูงใหญ่ หูยาว ขายาว หางดาบ มีประสาทตา จมูก และหูดีเยียม  มีทั่วไปในเกาะบริเตนและภาคพื้นทวีปยุโรป  ผู้ดียุโรป อังกฤษ สก็อต เวลส์ และไอริส  ในสมัยโบราณบำรุง  และ
คัดเลือกผสมพันธุ์เพื่อใช้ในการล่าสุนัขจิ้งจอก   ซึ่งถือว่าเป็นเกมกีฬาของพวกเขา  กีฬานี้เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า  " Fox hunting meet " มีในฤดูใบไม้ร่วง  หลังจากชาวไร่ชาวนาเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว  คนจะขี่ม้าตามฝูงหมา  เจ้าหมาเหล่านี้จะดมกลิ่นนำทางและวิ่งไล่เจ้าหมาจิ้งจอกเคราะห์ร้ายให้เข้าตาจน  เพื่อคนที่ขี่ม้าตามมาจะยิงได้สดวก  หรือบางครั้งฝูงหมาอาจช่วยกันรุมทึ้งรุมกัดฟัดเหวี่ยงหมาจิ้งจอกจนถึงตาย  ก่อนที่
เจ้านายจะตามมาทันก็มีอยู่บ่อย ๆ


                                                       Walker-coonhound
  
     หมาพันธุ์ฟอกซฺฮาวน์  มีหลายสายพันธุ์ (Strain) ทุก ๆ สายพันธุ์มีลักษณะคล้ายคลึงกันกดังกล่าวข้างต้น ส่วนใหญ่จะมี 3 สี ในตัวเดียวกัน คือ ดำ ขาว และแดง  สายพันธุ์ต้นฉบับที่มีชื่อเสียงในอังกฤษเรียก แทเรีย
(Terrier) ตัวเล็กกว่าหมาพันธุ์ฟอกซฺฮาวทั่วไปเล็กน้อย  ในประเทศอเมริกาใต้นำเอาหมาพันธุ์นี้จากอังกฤษเข้าไปเลี้ยง บำรุงคัดเลือกผสมพันธุ์จนมีสายเลือดต่างออกไป ที่มีชื่อเสียงคือTrigg-hound, Walker hound, และ Bluettick-hound แต่ที่แปลกออกไปคือ ในสหรัฐอเมริกาเจ้าของฟอกซฺฮาวน์ไม่ใช่ผู้ดีหรือมหาเศรษฐีเช่นในอังกฤษแต่กลับเป็นชาวนาและเกษตรกร ซึ่ต้องการใช้หมาช่วยในการล่าสัตว์ เช่นสุนัขป่า สุนัขจิ้งจอก
สิงโตภูเขา หมี ตลอดจนแรคคูน มิ้งค์และสกั๊งค์ ที่ชอบแอบเข้ามาลักเอาสัตว์เลี้ยงในฟาร์มไปกิน


                                                 Black_and_tan coonhound
   
     หมาฟอกซฺฮาวน์บางสายเลือดนิยมใช้ในการล่าตัวแรคคูน  เลยเรียกว่า คูนฮาวน์ (Coonhound) นาน ๆ เข้าก็เลยแยกออกมาเป็นหมาอีกพันธุ์หนึ่งต่างหาก  และมีสมาคมผู้นิยมเลี้ยง Coonhound ตั้งขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศอเมริกา  มีการประกวดลักษณะงดงามและความสามารถของหมาพันธุ์นี้เป็นประจำ จนกระทั้งในปัจจุบัน หมาฟอกซฺฮาวน์เป็นต้นตระกูลของหมาอีก 3 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการล่าสัตว์บก เช่นเดียวกับพันธุ์
บลัดฮาวน์ (Blood hound) แต่ไม่ดุเท่า มีโครงกระดูกที่ใหญ่และดูเทอะทะหน้าย่นปากห้อยเหมาะที่จะใช้
ดมกลิ่นสะกดตามเหยื่อที่เป็นสัตว์ป่าแล้วยังฝึกให้เป็นหมาตำรวจดมกลิ่นได้อีกด้วย

                                          
                                                             Bloodhound

     พันธุ์ที่สอง คือ หมาพันธุ์บีเกิล (Beagle) ตัวเล็กลงมาหน่อยขนาดหมาไทย เจ้าของหมาพันธุ์บีเกิลมักจะเป็นผู้มีอันจะกินพอสมควร  เลี้ยงหมาบีเกิลเป็นฝูง ฝูงละสิบกว่าตัว ใช้ล่าสัตว์เล็ก เช่น มิ้งค์ แบดเจอร์ อีเห็น
และกระต่ายเป็นต้น เห็นตัวเล็ก ๆ อย่างนั้นวิ่งเร็วพอ ๆ กับม้าที่เดียว ประชาชนนิยบมเลี้ยงหมาพันธุ์บีเกิลมาก
กว่าหมาพันธุ์ฟอกซฺฮาวน์ต้นตระกูล  เพราะเจ้าหมาพันบีเกิลกินน้อยกว่าและมีความน่ารักกว่า  เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้เป็นอย่างดี ในขณะที่หมาฟอกซฺฮาวน์ต้องอยู่ในคอกเหมือนอย่างโรงม้าทีเดียว






                                                               Beagle

     พันธุ์ที่สามคือหมาบาสเซทฮาวน์ (Bassel hound) มีลักษณะคล้ายบลัดฮาวน์มาก และมีนิสัยความสามารถคล้าย ๆ กัน คือ ดมกลิ่นเก่ง แต่มีขาสั้นจนดูเหมือนเป็นสุนัขพิการ  ใช้ในการล่าหนูและกระต่ายได้ดี
เพราะชอบขุดคุ้ยดินด้วยขาหน้าสั้น ๆ แต่ทรงพลังมากจนเหลือเชื่อ ชาวบ้านและเกษตรกรผู้ยากจนนิยมเลี้ยง
หมาพันธุ์บาสเซท  เพราะพวกเขาสามารถวิ่งไล่มันไปก็ทัน  ไม่ต้องขี่ม้าเหมือนอย่างพวกผู้ดีและคนชั้นกลาง
ที่มีเงิน  ที่สามารถจะเลี้ยงม้าไว้ใช้ขี่ออกล่าสัตว์ไม่ก็มีไว้ขี่ออกโชว์ตามถนนหนทาง  บ้านไหนมีม้าขี่หรือคอกม้าแข่งก็ถือว่าเป็นชนชั้นผู้ดีอย่างที่เคยเห็นในภาพยนตร์เรื่อง My Fair Lady  หรือ ทรามวัยกับไอ้ตูบ 







                                                             Bassel hound

     แต่ปรากฏว่าในปัจจุบันนี้ หมาพันธุ์บาสเซทและพันธุ์บีเกิลเป็นที่นิยมมากที่สุด  และมีจำนวนมากกว่าพันธุ์อื่น ๆ ในประเภทเดียวกันทั้งหมด  เพราะได้เป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านของคนทั่วไปเสียแล้ว ส่วนหมาบลัดฮาวนั้นจะพบบ้างก็เฉพาะในกองสุนัขตำรวจและสุนัขสงครามเป็นส่วนใหญ่  และที่จริงแล้วหมาพันธุ์
บาสเซทฮาวน์  มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส  หาใช่อังกฤษไม่     โดยคณะบาดหลวงแห่งวิหารเซนต์
ฮิวเบอร์ต   (Abbot of St. Hubert)   เป็นผู้ผสมขึ้น  จนใน ค.ศ.  1866      ท่านเคาน์ชาวฝรั่งเศส คือ Comte de Tournow ส่งสุนัขพันธุ์เตี้ยนี้ 2 ตัว ชื่อ Basset และ Belle ไปเป็นของกำนัลแด่ขุนนางอังกฤษ
ชื่อลอร์ด ออนสโล (Lord Onslow) นับว่าเป็นบาสเซทฮาวน์คู่แรกของประเทศอังกฤษ

   
     หมาของคนอังกฤษที่เขาเลี้ยงในชนบทเขาใช้เฝ้าแกะ  หมาพันธุ์นี้ตัวใหญ่มาก อุ้งตีนของมันขนาดเท่าเสือดาว  มีขนสีเทาปนขาว  รูปร่างใหญ่โตเป็นหมาพันธุ์คอลลี (Collie)  มันจะระมัดระวังเฝ้าฝูงแกะไม่ให้แตกฝูง  เรียกว่าทำหน้าที่แทนคนได้เลยเชียวละ  เป็นสิ่งประทับใจที่สัตว์สามารถดูแลกันเองได้  ซึ่งบางที
จะดีกว่าคนด้วยซ้ำไป  แต่อย่างไรเมื่อมาอยู่กับคน  คนกลับปลูกฝังนิสัยโหดร้ายให้เพิ่มขึ้นอีก  ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาประโยชน์ของตนเอง เช่น เจ้าของเขาจะตัดหูหมาออกทั้งสองข้าง  เพราะใบหูของหมานั้นเป็นจุึดอ่อน
เวลาที่หมาพันตูกับข้าศึก  อาจจะเป็นหมาป่าที่เข้ามากินแกะหรือสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน และสำหรับคนที่ถือ
วิสาสะเข้ามาหยิบข้าวของโดยมิได้รับอนุญาต

                                                            Collie

     การเลี้ยงและการดูแลหมาพันธุ์คอลลีนั้น  เขาจะเสี้ยมสอนให้หมาพันธุ์นี้กัดที่คอหอยเลยทีเดียวเชียว
ไม่ก็พุงกะทิของคน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหมาพวกนี้เวลาในตอนกลางคืนมีการใส่เกราะหนังแข็ง ๆ สวมไว้ที่อก
ให้หมาอีก ที่เกราะนี้จะมีหนามเหล็กแหลมยื่นออกมาเวลาหมาป่าหรือคนร้ายก็ตามที่บังอาจล่วงล้ำก็จะโดนเกราะเหล่านี้ป้องกัน  มันจะกระโดดพุ่งเข้าชนโดยกะให้หน้าอกที่สวมเกราะเหล็กได้ระดับพอดีกับหัวกะโหลก
หมาป่าเลย  และจะแม่นราวจับวางเหล็กแหลมจะได้ระดับพอดีกับนัยน์ตาของศัตรู ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหมาหรือเป็นคนโดนเข้าก็เรียบร้อยเลยละ (ยังไม่จบนะครับวันนี้ไว้แค่นี้ก่อนคราวหน้าผมจะพูดเรื่องหมาที่คนอังกฤษ
นิยมเลี้ยงเพื่อแข่ง )


                                                   ________________________

Sampan Chanpa










 































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น