เมื่อเอ่ยชื่อ เฮอร์เบิร์ต ฮูเว่อร์ ประธานาธิบดีคนที่ ๑๓ ของสหรัฐแล้วเด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้จัก แต่ผมขอบอกไว้ในที่นี้เลยว่า ลองกลับใจมารับรู้จักกับท่านสักหน่อยเป็นไร เดี๋ยงผมจะบอกให้ทราบว่าทำไม่เด็ก ๆ รุ่นใหม่ควรจะได้รู้จักกับท่าน ท่านเป็นประธานาธิบดีที่คนรุ่นเก่า ๆ อย่างผมรู้จักในฐานะประธานาธิบดีที่โดนแจ้กพ้อตเข้ามาอย่างจัง เข้าบริหารประเทศในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๓๐ ยุค The Great Depression ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ( ซึ่งตรงกับเมื่องไทยในสมัยราชการที่ ๗ ) ท่านเป็นประธานาธิบดีคนแรกของทำเนียบขาว ซึ่งได้ใช้โทรศัพท์อยู่บนโต๊ะ๊สะดวกสบายหมุนออกได้ทันใจ คนเป็นผู้นำของประเทศนั้นจะพุ่งความสนใจไปในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ตรงกัน แต่เรื่องหลัก ๆของผู้นำประเทศที่ต้องแก้ คือ ต้องควบคุมสถานการณ์
ภายในประเทศและดูแลนโยบาย ต่างประเทศให้ดี ต้องให้ทั้งสองด้านบาล้านซ์กันและ ให้ความสนใจอย่างเท่าเทียมกันจะหนักเอนเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากนักไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีประเด่นเฉพาะที่ผู้นำแต่ละคนจะให้ความสำคัญต่าง ๆ กันออกไป เช่น ประธานาธิบดี
โทมัส เจฟเฟอร์สัน สนใจเรื่องชนชั้นเป็นพิเศษ ลินคอล์สนใจเรื่องการเลิกทาส นิกสันสนใจแต่เรื่องสงครามเวียดนาม เรแกนเอาแต่เรื่องผลิตอาวุธตามโครงการสตาร์วอส์ แต่ประธานาธิบดี เฮอร์เบิรต์ ฮูเว่อร์ ท่านกลับสนใจเรื่องเด็กเป็นพิเศษ นี่ไงครับที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่ควรจะรูจักท่าน
เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ (August 10, 1874 – October 20, 1964)
อันดับที่ 3 ได้แก่ โธมัส เจฟเฟอร์สัน (ค.ศ.1801-1809)
อันว่าเรื่องเด็กนั้นไม่ใช่เฉพาะแต่น้องปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ จะให้ความสำคัญเท่านั้น แม้แต่องค์การยูนิเซฟของสหประชาชาติก็ยังให้ความสนใจมาก องค์การนี้ได้ก่อตั้งขึ้นโดยสมัชชา
เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ปี ค.ศ. ๑๙๔๖ จุดประสงค์เพื่อจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ ของเด็กรวมไปถึงวัยรุ่นและ จะให้ความช่วยเหลือ แก่
ประเทศต่าง ๆ ยูนิเซฟค้นพบว่า ๑ ใน ๕ ของเด็กทั่วโลกจะตายลงก่อนอายุจะถึง ๕ ขวบ นับว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอยู่มากเพราะเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าเยาวชนนั้นต่อไปในอนาคตจะต้องเป็นผู้ที่มีบทบาทและต้องมีส่วนรับภาระหน้าที่ในกิจการต่าง ๆ ของประเทศหรืออาจจะเป็นของโลกก็ว่าได้ พูดสั้น ๆ อย่างน้อยปุ๋ยบนเวทีประกวดนางสาวไทยก็คือ " เด็กในวันนี้คืออนาคตของชาติในวันข้างหน้า "
Abraham Lincoln
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 16
ผู้ปลดปล่อยทาส
ท่านประธานาธิบดี เฮอร์เบิร์ต ฮูเว่อร์ นั้นท่านชอบตอบจดหมายของเด็ก ๆ ทุกคนที่มีเข้าไปขอข่าวสาร ข้อมูล คำแนะนำหรือแม้กระทั้งที่เขียนเข้าไปคุยเรื่องสัพเพเหระ จดหมายทุกฉบับท่านจะให้ความสำคัญอย่างมากและใช้เวลาตอนดึก ๆ นั่งอ่านนั่งตอบท่านบอกว่าการตอบจดหมายเด็ก เป็นการผ่อนคลายความเครียดและความทุกข์ได้เป็นอย่างดีที่สุด ยิ่งกว่ายารักษาโรคขนานใด ๆ และเป็นการทำให้ทราบว่าอเมริกาในยุคตต่อไปนั้นจะก้าวไปทิศทางใด ลองมาดูจดหมายบางฉบับที่อาจจะมีสาระยิ่งกว่าจดหมายของผู้ใหญ่หรือนักการเมืองบางคน !
"ลองอ่านดูกันเอาเองแล้วกันครับ"
ฉบับที่ ๑
คุณลุงฮูเว่อร์ครับ.
ผมเรียนอยู่ชั้น ๙ กำลังทำบทสัมภาษณ์อยู่ คุณครูบอกว่า จะสัมภาษณ์ใครก็ได้ ผมเลยเลือกท่านครับ คำถามคือ
๑) ในกระบวนประธานาธิบดีทั้งหมดท่านรักและชื่นชมใครมากที่สุดครับ
๒) ท่านคิดว่าผู้นำโซเวียต นิกิต้า ครุสชอฟ เป็นคนยังไงครับ
เดนนิส
๑ ) ลุงชอบท่านจอร์ช วอชิงตัน และท่านอับราฮัม ลินคอล์น มากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่า ท่านดีที่สุดนะเพราะประธานาธิบดีท่านอื่น ๆ ก็เป็นคนเดียวกันทุกคน
๒ ) ตามความเห็นของลุง เขาเป็น "ติดลบ" ในทุกแง่มุมมอง !
ประธานาธิบดีท่านแรก เป็นผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ท่านประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน George Washington วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของอเมริกา มีความกล้าหาญ แข็งแกร่ง ท่านเป็นประธานาธิบดีที่ประกาศอิสรภาพให้แก่อเมริกา และก่อตั้งประเทศมหาอำนาจของโลกแห่งนี้
____________________
ฉบับที่ ๒
มิสเตอร์ฮูเว่อร์คะ
ผู้หญิงมีทางจะได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐบ้างไหมคะ โปรดให้ความหวังหนูบ้าง
แค้ทซี้
ในรอบ ๔๗ ปี ที่ผ่านมาประธานาธิบดีที่เป็นผู้ชายก็ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่ก็มีจุดบกพร่องนิด ๆ หน่อย ๆ กันทุกคน โอกาสของผู้หญิงในปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้นมากกว่าในสมัยโบราณ แต่ในยุคนี้ประชาชนอาจจะยังไม่ย่อมรับ ถ้าอีก ๓๐ ปีข้างหน้าหนูคิดว่าหนูมีคุณสมบัติเหมาะสมแล้วก็เป็นเรื่องที่ควรจะลองดูอยู่ไมใช่หรือจ๊ะ?
โรนัลด์ เรแกน (Ronald Wilson Reagan)
โรนัลด์ เรแกน (Ronald Wilson Reagan) เกิด 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1911 เสียชีวิต 5 มิถุนายน ค.ศ. 2004 ด้วย
โรคอัลไซเมอร์ เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 40 (ค.ศ. 1981-ค.ศ. 1989) สังกัดพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้เรแกนยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย คนที่ 33 (ค.ศ. 1967-ค.ศ. 1975) ก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นผู้ประกาศข่าวและนักแสดงมาก่อน
_____________________
ฉบับที่ ๓
มิสเตอร์ฮุเวอร์ครับ
คนเราชอบใช้คำว่า conservative อนุรักษ์นิยมกันเกร่อมาก ซึ่งมีทั้งพวกอนุรักษ์จริงและแกล้งทำโก้ ๆ เป็นพวกอนุรักษ์ (ปลอม) ขอให้ท่านอธิบายความหมายที่แท้จริงของคำ
conservative ด้วยขอบคุณครับ
เจอราล
ตามความเห็นของลุงนะ มันเหมือนสายหมอกบาง ๆ มาปกคลุมอยู่รอบ ๆ คำ
คอนเซอเวทีฟ อยู่เนือง ๆ คนที่คอนเซอเวอทีฟจริง ๆ นั้น คือ คนซึ่งปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่ง พุทธิปัญญาและประสบการณ์ที่ดีงามในอดีต เป็นคนที่พร้อมจะประยุกต์
สิ่งดีงามอันนั้นให้เข้ากับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันและในยุคต่อ ๆ
ไป
_______________________
ฉบับที่ ๔
คุณปู่ฮูเว่อร์คะ.
พวกเราถูกคุณครูใช้ให้ทำการบ้านเรื่อง คริสต์มาส ว่า คริสต์มาสมีความหมายกับชีวิตของคนเราอย่างไรบ้าง คุณปู่ต้องตอบด่วนนะคะ เพราะงานอันนี้พวกหนูต้องส่งก่อน
วันปิดภาคคะ
เชอรี่
สำหรับปู่นะคริสต์มาสมีความหมายต่อไปนี เอ้า !..รีบจดกันไว้
๑ ) อย่างน้อย ๆ มันหมายความว่าเราได้มีชีวิตอย่างสงบสุขรอดต่อไปอีกหนึ่งปี โดยไม่มีสงครามโลกครั้งใหม่เกิดขึ้น
๒ ) มันหมายความว่า หลังจากถูกรัฐบาลอเมริกันเชือดเฉือนเอาเงินภาษีไปอย่างหฤโหดแล้ว ! ตลอด ๑ ปีที่ผ่านมาเรายังเหลือเงินไว้ซื้อและประดับต้นคริสต์มาสได้
๓ ) สำหรับตัวปู่เองวันคริสต์มาสนั้นเป็นวันที่ลูก ๆ และ หลาน ๆ ของปู่จะพร้อมใจกันเดินทางมาเยี่ยมปู่กัน
๔ ) วันนั้นจะเป็นวันที่ของกินบานตะเกียงเลย!
๕ ) และที่สำคัญที่สุดจะเป็นโอกาสอันดีมากที่ปู่จะได้กล่าวกับ หลาน ๆ ทุกคนในห้องเรียนผ่านมาทางจดหมายฉบับนี้ว่า " Merry Christmas and a Good New Year " แน่ะ !
ริชาร์ด มิลเฮาส์ นิกสัน (ภาษาอังกฤษ: Richard Milhous Nixon) (9 มกราคม พ.ศ. 2456 - 22 เมษายน พ.ศ. 2537) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา ระหว่าง พ.ศ. 2512- พ.ศ. 2517 และเคยเป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 36 ระหว่างปี พ.ศ. 2496 - พ.ศ. 2504 ริชาร์ด นิกสันเป็นประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวที่ลาออกจากตำแหน่ง สาเหตุที่ลาออกนั้นเกิดจากคดีวอเตอร์เกต
ในสมัยของนิกสันนั้นประสบความสำเร็จในด้านการทูต โดยเฉพาะการผ่อนคลายความตึงเครียดในช่วงสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต และประเทศจีน รวมไปถึงการถอนตัวออกจากสงครามเวียดนาม
_________________________
ฉบับที่ ๕
มิสเตอร์ฮูเว่อร์ครับ
ผมอายุ ๗ ขวบ เป็นเด็กดีและขยันผมสนใจมากเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ผมหวังจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐเมื่อโตขึ้น ผมจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้างเพื่อให้ความฝันของผมเป็นความจริงฮะ
โจนาธาน
หลานต้องเชื่อปู่ หลานต้องจำไว้ ๓ อย่างดังต่อไปนี้
๑ ) ไม่มีใครจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นประธานาธิบดีได้ถ้ายังไม่สามารถเรียนจบชั่้นไฮสกูลเสียก่อน
๒ ) คนจะเป็นประธานาธิบดีได้ต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในศาสนา และมีศิลธรรมเป็นหลักประจำใจ
๓ ) ในช่วงระยะเวลานี้หลานยังไม่ต้องเตรียมตัวอะไรหรอกเพียงแต่ทำตัวเป็นเด็กดี และเอ็นจอยสนุกสนานกับชีวิตไปเถอะเพราะช่วงวัยเด็กของเราเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุด และเมื่อผ่านไปแล้วเราจะเรียกคืนมาไม่ได้
ชอบประวัติศาสตร์ใช่ไหม? พร้อมกับจดหมายฉบับนี้ปู่ได้ส่งหนังสือประวัติศาสตร์ดี ๆ
มาให้หนูแยะเลย
_________________________
ฉบับที่ ๖
คุณลุงคะ
เพื่อนหนูในห้องแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งโตขึ้นอยากเป็นประธานาธิบดี อีกฝ่ายหนึ่งโตขึ้นอยากเป็นหมอ หนูตัดสินใจไม่ถูก คุณปู่คิดว่าอาชีพอะไรดีกว่ากันคะ?
แคทเธอลีน
ลุงอยากให้หนูเป็นหมอมากกว่าเป็นประธานาธิบดี ประเทศของเรายังขาดแคลนแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่เรามีนักการเมืองที่พร้อมจะวิ่งเข้าสู่ทำเนียบขาวหลายล้านคน ปู่ตอบเท่านี้คงช่วยการตัดสินใจของหนูได้บ้างนะ
(ประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน)
การบริหารประเทศของประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน ประธานาธิบดีลำดับที่ ๓๖ ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๖๕ – ๑๙๖๙ มุ้งแก้ไขปัญหาสังคมและสร้างความั่นคงให้กับประชาชนภายใต้แผน The Great Society Program ซึ่งสืบทอดงานของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนนาดี้ (ประธานาธิบดีลำดับที่ ๓๕)
______________________
ฉบับที่ ๗
มิสเตอร์อูเว่อร์คะ
หนูอายุ ๑๐ ขวบค่ะ หนูอ่านจากหนังสือพิมพ์พบว่าคุณปู่ชอบตกปลามาก ปลาชนิดไหนที่ปู่ตกได้บ่อยที่สุดคะ และเวลาปู่ตกปลาปู่ใช้อะไรเป็นเหยื่อคะ ของหนูใช้หนอนค่ะ
แมรี
ปู่ตกปลาทุกเวลาที่มีโอกาส ตอนเล็ก ๆ ปู่มีบ้านอยู่ในบริเวณที่มีปลาเทร้า (trout) มาก
ปู่ก็ใช้หนอนเหมือนหนู แต่ปูเป็นคนแปลกอย่างหนึ่งพอตกเสร็จปลากินเบ็ดแล้วปูก็สบายใจ
ปู่จะปล่อยเขาลงน้ำไปอีกไม่เอากลับมากินบ้าน ปู่ชอบไปตกปลาแถบฟลอริด้ามากเลยจ๊ะ
ประธานาธิบดีจอนห์ เอฟ เีคนเนดี้
ประธานาธิบดีจอนห์ เอฟ เีคนเนดี้ สหรัฐฯ กล่าวไว้ว่า “ใครที่ขัดขวางรัฐประหารโดยสงบ ย่อมทำให้รัฐประหารโดยความรุนแรงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ทั้งนี้ หมายความว่า รัฐประหารคือส่วนหนึ่งของการวิวัฒนาการทางการเมืองที่จะต้องเกิดเมื่อถึงเวลา เพื่อสังคมส่วนรวมจะได้ก้าวสู่ความสงบสุข โดยมิจำต้องเป็นปรากฏการณ์ที่น่ารังเกียจเสมอไป บางประเทศมีรัฐประหารถี่ เพราะอยู่ในระดับวิวัฒนาการหนึ่ง ผู้นิยมกฎหมู่เหนือกฎหมายและต้องการสถาปนา “คนหลงรักตัวเอง” ขึ้นเป็นนายกฯ เพื่อสร้างสรรค์ความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชนไปอีกหลายชั่วคน โดยมิต้องอาศัย “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จะไม่ชอบรัฐประหารอย่างแน่นอน
_____________________________
ฉบับที่ ๘
มิสเตอร์ฮูเว่อร์ครับ
ผมกำลังจะเลือกศาตร์เรียนในมหาวิทยาลัยครับ ถ้าจะเตรียมก้าวเข้าสู่วงการเมื่องผมควรจะเลือกเรียนศาตร์อะไรครับ ท่านจะตอบจดหมายผมหรือเปล่าถ้าผมจะเรียนท่านตามตรงว่า คุณพ่อคุณแม่ผมเป็นเดโมแคร้ต * และต่อไปข้างหน้าถ้าผมจะเป็นนักการเมืองผมจะใส่เสื้อเดโมแคร้ตเหมือนกันครับ
จิมมี่
การจะเป็นประธานาธิบดีนั้นไม่ได้มีศาสตร์เรียนอะไร โดยเฉพาะเจาะจง จิมมี่จะเห็นอยู่แล้วไม่ใช่หรือว่าประธานาธิบดีของเราที่ผ่านมาในอดีตจะเรียนจบในสาขาที่ต่าง ๆ กัน ไม่ใช่วิชาชีพอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นเรื่องของการคัดคนที่เหมาะสมที่พร้อมจะอุทิศชีวิตเพื่อส่วนร่วม และเป็นอาชีพที่ทรงเกียรติมาก ส่วนเรื่องพรรคจะพรรคไหนนั้นเป็นเรื่องอิสรภาพส่วนบุคคลของแต่ละคนขอให้จิมมี่โชคดีในทุกสิ่งที่ปราถนา
* ( เนื่องจากประธานาธิบดีฮูเว่อร์เป็นรีพับบลิกัน )
เจมส์ เอิร์ล "จิมมี" คาร์เตอร์ จูเนียร์
เจมส์ เอิร์ล "จิมมี" คาร์เตอร์ จูเนียร์ (อังกฤษ: James Earl "Jimmy" Carter, Jr) เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐอเมริกาในช่วงปี พ.ศ. 2520 - 2524 และยังได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ (Nobel Peace Prize) ในปี พ.ศ. 2545
______________________________
ฉบับ (ไม่ ) สุดท้าย
ประธานาธิบดีครับ
พวกเรามีคำถามสั้น ๆ คือ พวกเราอยากทราบว่าเราควรจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้อเมริกา
ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปกว่านี้อีกครับ
คณะนักเรียนห้องชั้นหก
วิธีจะช่วยให้ชาติเจริญนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน คือปัญหาวัยรุ่นจะต้องให้น้อยลง อาชญากรรมต้องลดลง การขึ้นค่าแรงแต่ไม่เพิ่มผลผลิตนั้นถือว่าอันตรายร้ายแรงของชาติ
การจัดระบบงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ได้อัตราส่วนอย่างเหมาะสม
ระบบการค้าระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงมาก มาตรฐานทางศิลธรรมของประชาชนทุกคนจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ หมั่นอุทิศตนเองให้กับศาสนาบ้าง อย่าลืมนะว่าความยุ่งเหยิง และการแตกความสามัคคีภายในบ้านของเรานั้น มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าสงครามนิวเคลียร์จากนอกประเทศเสียอีก !!!
___________________________
หมายเหตุ : จดหมายฉบับ ( ไม่ ) สุดท้าย ถูกเขียนและตอบมาตั้งแต่ สมัย ประธานาธิบดี
เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ (August 10, 1874 – October 20, 1964) จดหมายถูก บันทึกมาร้อย
กว่าปีแล้ว แต่ผมอ่านไปอ่านมาหลายครั้งก็เหมื่อนเหตุการใน จดหมายถูกเขียนขึ้นเมื่อไม่นานมานี่เองเพื่อเตือนสติคนในชาติของเรา ( ประเทศไทย ) ก่อนจากกันไปนอน ผมมีนิทานเรื่องหนึ่จะนำมาลงให้อ่าน
นาย ชิต บุรทัต ผู้ประพันธ์
เรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ โดยย่อ
สามัคคีเภทคำฉันท์ มีว่าสมัยก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานไม่นานนัก พระเจ้าอชาตศัตรูทรงครองราชสมบัติที่นครราชคฤห์ แคว้นมคธ พระองค์ทรงมีวัสสการพราหมณ์ ผู้ฉลาดและรอบรู้ศิลปศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาราชกิจทั่วไป ขณะนั้นทรงปรารภจะแผ่พระราชอาณาเขตเข้าไปถึงแคว้นวัชชี แต่กริ่งเกรงว่ามิอาจเอาชนะได้ด้วยการส่งกองทัพเข้ารุกราน เนื่องจากบรรดากษัตริย์ลิจฉวีมีความสามัคคีสูง และการปกครองอาณาประชาราษฎ์รด้วยธรรม อันนำความเจริญเข้มแข็งมาสู่แว่นแคว้น พระเจ้าอชาตศัตรูทรงหารือเรื่องนี้เป็นการเฉพาะกับวัสสการพราหมณ์ จึงเห็นแจ้งในอุบายจะเอาชนะด้วยปัญญา
วันหนึ่งพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จออกว่าราชการพร้อมพรั่งด้วยเสนาอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่ เมื่อเสร็จวาระเรื่องอื่นๆลงแล้ว จึงตรัสในเชิงหารือว่า หากพระองค์จะยกทัพไปปราบแคว้นวัชชีใครจะเห็นคัดค้านประการใดวัสสการพราหมณ์ฉวยโอกาสเหมาะกับอุบายตนที่วางไว้ ก็กราบทูลท้วงว่าเห็นทีจะเอาชนะไม่ได้เลย เพราะกษัตริย์ลิจฉวีทุกองค์ล้วนผูกพันเป็นกัลยาณมิตรอย่างมั่นคง มีความสามารถในการศึกและกล้าหาญ อีกทั้งโลกจะติเตียน หากฝ่ายมคธจงใจประทุษร้ายรุกรานเมืองอื่น ขอให้ยับยั้งการทำศึกเอาไว้เพื่อความสงบของประชาราษฎร์พระเจ้าอชาตศัตรูทรงแสร้งแสดงพระอาการพิโรธหนัก ถึงขั้นรับสั่งจะให้ประหารชีวิตเสีย แต่ทรงเห็นว่าวัสสการพราหมณ์รับราชการมานาน จึงลดโทษการดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพครั้งนั้น เพียงแค่ลงพระราชอาญาเฆี่ยนตีอย่างแสนสาหัสจนสลบไสล ถูกโกนหัวประจานและ เนรเทศออกไปจากแคว้นมคธ
ข่าววัสสการพราหมณ์เดินทางไปถึงนครเวสาลี เมืองหลวงของแคว้นวัชชี ทราบไปถึงพระกรรณของหมู่กษัตริย์ลิจฉวี จึงรับสั่งให้เจ้าพนักงานตีกลองสำคัญเรียกประชุมราชสภาว่า ควรจะขับไล่หรือเลี้ยงเอาไว้ดี ในที่สุดที่ประชุมราชสภาลงมติให้นำเข้าเฝ้าเพื่อหยั่งท่าทีและฟังคารมก่อน
แต่หลังจากกษัตริย์ลิจฉวีทรงซักไซ้ไล่เลียงด้วยประการต่างๆ ก็หลงกลวัสสการพราหมณ์ ทรงรับไว้ทำราชการในตำแหน่งอำมาตย์ผู้พิจารณาพิพากษาคดีและตั้งเป็นครูฝึกสอนศิลปวิทยาแก่ ราชกุมารของเหล่ากษัตริย์ลิจฉวีด้วย จากนั้นต่อมา พราหมณ์เฒ่าก็ทำที่ปฎิบัติงานในหน้าที่อย่างดี ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง จนหมู่กษัตริย์ลิจฉวีไว้วางพระทัย
แผนการทำลายความสามัคคีได้เริ่มจากวัสสการพราหมณ์ใช้กลอุบายให้บรรดาราชโอรสกษัตริย์ลิจฉวีระแวงกัน โดยแกล้งเชิญแต่ละองค์ไปพบเป็นการส่วนตัว แล้วถามปัญหาธรรมดาที่รู้ๆ กันอยู่ เมื่อองค์อื่นซักเรื่องราวว่าสนทนาอะไรกับอาจารย์บ้าง แม้ราชกุมารองค์นั้นจะตอบความจริง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อถือ ก่อให้เกิดความระแวงและแตกร้าวในบรรดาราชกุมาร กระทั่งลุกลามไปสู่กษัตริย์ลิจฉวี ผู้เป้นพระราชบิดาทุกองค์ ทำให้ความสามัคคีค่อยๆ เสื่อมลงจนกระทั่งไม่เข้าร่วมประชุมราชสภา หรือได้ยินเสียงกลองก็ไม่สนใจประชุม เมื่อมาถึงขั้นนี้วัสสการพราหรณ์จึงลอบส่งข่าวไปให้พระเจ้าอชาตศัตรูยกทัพมาตีแคว้นวัชชีได้เป็นผลสำเร็จสามัคคีเภทคำฉันท์ แต่งขึ้นเพื่อมุ่งสรรเสริญธรรมแห่งความสามัคคีเป็นแก่นของเรื่อง และหลักธรรมข้อนี้ไม่ล้าสมัย สามารถยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่หมู่ชนที่มีความพร้อมเพรียงกันพัฒนาสังคม หากนำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง
____________________________
สัมพันธ์ จันทร์ผา
Lung cancer early diagnosis and treatment Early Lung Cancer Survival Rates Being able to reach 90 percent of lung cancer patients is important. Anti-Cancer Association's Lung Cancer Specialist and vice president of cancer hospital said The reason for the increase in incidence and lung cancer deaths
ตอบลบอ่านต่อได้ที่ โรงเรียนบ้านวังตลับ