วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

3 เรื่องสั้น(สั้นจริง ๆ)ตรึงใจข้าพเจ้า

เรื่องที่ หนึ่ง


                                                              จิตใจของเด็ก

หญิงโสดคนหนึ่งย้ายบ้านใหม่  พบว่าข้างบ้านเป็นครอบครัวที่้แสนยากจน ประกอบไปด้วยแม่หม้ายและลูกอีกสองคน

อยู่มาคืนหนึ่ง  ไฟฟ้าเกิดดับ  หญิงโสดผู้นั้นจึงจุดเทียนไข สักพักมีคนมาเคาะประตู

เป็นเด็กข้างบ้านนั่นเอง  เด็กถามอย่างตื่นเต้นว่า " คุณน้าในบ้านมีเทียนไขไหม "

หญิงโสดผู้นั้นคิดในใจ " บ้านพวกเขาจนถึงขนาดไม่มีเทียนไขเลยหรือ ช่างหัวมันเถิด เดี๋ยวได้คืบก็จะเอาศอก "

หญิงโสดผู้นั้นจึงตอบเด็กแบบมะนาวไม่มีน้ำไปว่า  " ไม่มี "

ขณะที่หญิงโสดผู้นั้นกำลังเตรียมปิดประไล่็เด็ก กลับเห็นเด็กผู้นั้นหน้าตากลับยิ้มแย้ม เด็กพูดขึ้นว่า " นึกแล้วว่าน้าคงไม่มี " พอพูดจบ เด็กผู้นั้นก็ควักเทียนไข 2 เล่มออกจากอกเสื้อ " แม่ฉันเป็นห่วงว่าคุณน้าอยู่คนเดียวคงไม่มีเทียนไข จึงให้หนูนำมาให้คุณน้า 2 เล่ม "

ทันใดนั้นเอง หญิงโสดผู้นั้นรู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาคลอ กอดเด็กไว้แน่น


                                                     ____________________________

เรื่องที่สอง


                                   หัวใจไร้เดียงสา


ณ   ชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งฝนแล้งมานานแล้ว  พืชผลเสียหายหนัก  พระจึงระดมชาวบ้านเตรียมประกอบพิธีขอฝนในวัด

เด็กหญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งแทรกตัวอยู่ในกลุ่มคนผู้ขอฝนด้วย  เนื่อจากตัวเธอเล็ก  จึงเกือบจะไม่มีใครสังเกตเห็น

ทันใดนั้น  พระผู้ทำพิธีมองเห็นสิ่งที่เด็กหญิงผู้นั้นถืออยู่่  จึงพูดขึ้นอย่างตื่่นเต้นพลางชี้มือไปทางตัวเธอ " หนูน้อยนั่นทำให้อาตมาซาบซึ้งมาก " กลุ่มชาวบ้านจึงมองไปยังทิศทางที่ชี้

พระพูดต่อ  " วันนี้เรามาอธิษฐานขอฝนกัน  แต่ในที่ทำพิธีแห่งนี้ไม่มีใครนำร่มมาเลยนอกจาก
เด็กหญิงคนนี้ "  ทุกคนมองไปยังเธอ เห็นเธอมีร่มสีแดงอยู่ข้างตัวเธอจริง ๆ หลังจากสงบเงียบ
ไปชั่วครู่ ก็มีเสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหวประสานกับน้ำตาที่แสดงความซาบซึ้ง
ั่
บางครั้งเราอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า " เด็กเล็กจริง ๆ แล้วไม่เล็กเลยพวกเธอใหญ่มาก มีจิตใจรักที่ยิ่งใหญ่  และมีจิตใจมั่นที่ยิ่งใหญ่ "


                                                           _______________________________



เรื่องที่สาม


                เราไม่สดวกสบายแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง


วันก่อนโชคดีที่จองตั๋วรถได้กลับไปเยี่ยมบ้านแม่  พอขึ้นรถกลับเห็นมีหญิงคนหนึ่งนั่งบนที่นั่งเรา   สามีสะกิดให้ฉันนั่งข้างตัวเธอ  แต่ไม่ยักท่วงคืนที่นั่งจากหญิงคนนั้น  ฉันสังเกตเห็นขาข้างขวาของเธอไม่สมประกอบ  จึงเข้าใจเหตุผลที่สามีไม่ทวงคืนที่นั่ง

สามียืนตั้งแต่ต้นทาง อำเภอเจียอี้จนถึงกรุงไทเป  โดยไม่เอยปากท่วงคืนที่นั่งจากหญิงผู้นั้นเลย  เมื่อถึงปลายทางลงจากรถแล้ว  ฉันถามสามีด้วยความห่วงใยในความเมื่อยล้า " เอื้อเฟื้อที่นั่งก็ถือว่าใจบุญสุนทานอยู่จริง  แต่จากเจียอี้ถึงไทเประยะทางยาวนานเช่นนี้  ก็น่าจะขอให้
เธอลุกขึ้นยืนสับเปลี่ยนให้คุณนั่งบ้าง "

สามีกลับตอบะว่า  "คนเขาต้องทนความยากลำบากตลอดชีวิตขาของเธอไม่ดี  เราแค่ไม่สะดวกสบายเพียง 3 ชั่วโมง " ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้ยินสามีพูดเช่นนี้  มีผัวเป็นคนดี  มีใจเมตตาชอบปิดทองหลังพระแบบนี้  ทำให้ฉันรู้สึกว่าโลกนี้อบอุ่นขึ้นน่าอยู่เป็นนักหนา

                                                 _______________________________


เมื่อปรับเปลี่ยนจิตใจ  โลกก็จะเปลี่ยนไปด้วย  เรื่องทุกอย่างในชีวิตคนเราย่อมปรับทิศทางได้ขึ้นอยู่กับเราคิดอย่างไร  ปรับอย่างไร

เราอาจไม่ประสบความสำเ็ร็จภายใน 3 นาที  แต่ชีวิตเราอาจเปลี่ยนได้โดยใช้เวลาเพียง 1 นาที


หลังจากอ่านเรื่องเล่านี้แล้ว คุณอาจลุกขึ้นทันทีไปเช็ดโต๊ะ หรือ
ล้างจาน หรืออาจจะพับเก็บหนังสือพิมพ์ หลับตาพินิจสักครู่หรืออาจจะส่งเรื่องเล่าให้ญาติมิตร

แน่นอน ฉันปรารถนาที่สุดคืออยากให้คุณเลือกทางเลือกสุดท้าย เพราะคุณอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นมากมายใครจะไปรู้

เราไม่แน่ว่าจะรวยทรัพย์เพราะหาเงินได้มาก  แต่เราสามารถรวยน้ำใจจาการเอื้เฟื้อเผื่อแผ่ได้




                    ขอให้มิตรสหายทุกท่าน


                           สุขกายสบายใจ

สัมพันธ์ จันทร์ผา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น